ท่านใดที่อยากทำเป็นอาชีพจากงานประจำ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น การเลี้ยงปลาทองหัวสิงโต เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ท้าทาย ขอแค่มีความตั้งใจและอดทน ก็จะประสบความสําเร็จในสิ่งที่เราชอบ และมีรายได้

ที่ฟาร์มปลา AF Goldfish Ubon เราได้เจอกับ คุณศุภวัจน์ ศรีสูงเนิน หรืออาร์ต เจ้าของฟาร์มตั้งอยู่บ้านที่ 47 ถนนเทพโยธี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี คุณศุภวัจน์ ปกติมีงานประจำเป็นพนักงานของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง เล่าถึงเหตุที่มาเลี้ยงปลาทองหัวสิงโตสายพันธุ์ญี่ปุ่น มาจากความชอบตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก จะเก็บเงินค่าขนม ใช้ซื้อปลากัด ปลาสวยงามมาเลี้ยง พอทำงานก็เลยตั้งใจจะทำบ่อเลี้ยงปลาสวยงามเป็นอาชีพ ก็มาเจอกับปลาทองหัวสิงโต ซึ่งเลี้ยงแล้วขายได้ราคาดีเป็นที่นิยมของนักเลี้ยงปลาสวยงาม โดยปลาแต่ละตัวจะมีราคาตามขนาดและความสวยงามตั้งแต่ 500 บาทไปถึง 15,000 บาท

สำหรับคุณลักษณะของปลาทองหัวสิงโต นอกจากมี 5 สี รูปร่างต้องตัวกลม น่ารัก มีวุ้นละเอียดที่หัว ส่วนโคลนหาง มีสีสันสวยสดใส เพราะถือเป็นสีแห่งการให้โชค ให้ลาภ ให้ทรัพย์แก่ผู้เลี้ยง โดยปลาสายพันธุ์นี้ ตัวโตเต็มวัยจะมีขนาดประมาณ 5 นิ้ว ให้อาหารวันละ 2 ครั้ง การให้อาหารก็อย่ามากจนเกินไป เพราะจะทำให้น้ำเน่าเสียได้

สำหรับการเพาะพันธุ์ คุณศุภวัจน์ เล่าว่า จะเพาะลูกปลาคราวละประมาณ 10,000 ตัว หลังจากเลี้ยงได้ประมาณ 2 เดือน ก็จะเริ่มคัดแยกลักษณะของปลาให้เหลือประมาณ 2,000 ตัว อีก 2 เดือนต่อมาก็จะคัดแยกปลาอีกครั้งให้เหลือประมาณ 1,000 ตัว ที่จะเก็บไว้ขายตอนปลาโตเต็มวัย ซึ่งตอนนั้นราคาจะขึ้นไปตามความสวยงามของปลาแต่ละตัว หากผ่านการประกวดและได้รางวัล ก็จะมีราคาแพงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

ส่วนอายุปลาโตที่จะขาย ก็ควรมีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เพราะตัวจะเริ่มโต และที่หัวจะเริ่มมีวุ้นละเอียดสวยงาม พ่อค้าคนกลางก็จะมารับซื้อไปขายต่อให้กลุ่มผู้นิยมเลี้ยงปลาสวยงามที่ให้โชคให้ลาภ ทั้งแถบอาเชียน และ แถมยุโรป ก็มีส่งไปขาย

ถ้าใครอยากเลี้ยงเป็นปลาสวยงามไว้ในบ้าน หรือทำเป็นอาชีพเสริมเบื้องต้นต้องศึกษาความเหมาะสมในการเลี้ยงทั้งขนาดความกว้างของบ่อที่ใช้เลี้ยง ไปจนถึงการให้อาหาร และการดูแลเรื่องน้ำ สามารถโทรศัพท์ปรึกษาได้ที่ คุณศุภวัจน์ 085-495-5535 หรือติดตามได้ทาง เฟชบุ๊ก AF Goldfish Ubon

สุธน ประกอบพร/อุบลราชธานี