AIS 5G แนะนำสถานที่ไหว้พระขอพรปีใหม่ 10 วัดในอำเภอเมืองอุบลฯ
AIS 5G อยู่ที่ไหนสัญญาณก็แรง ชวนไหว้พระขอพรปีใหม่ 2565 10 วัด ในอำเภอเมือง อุบลราชธานี
1.วัดพระธาตุหนองบัว
2.วัดมหาวนาราม (พระอารามหลวง)
3.วัดมณีวนาราม
4.วัดทุ่งศรีเมือง
5.วัดเลียบ
6.วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ
7.วัดหลวง
8.วัดสุปัฏนารามวรวิหาร
9.วัดบูรพา
10.วัดสระประสานสุข
ใครกำลังมองหาโปรแรงส่งท้ายปีแบบคุ้มๆ ไร้ขีดจำกัด AIS Super Sale กับโปรเน็ต 5G Hotdeal Super Max Speed 599.- สมาร์ทโฟน 5G/4G สดสูงสุดส่งท้ายปี 76% ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. 64
พบกับโปรโมชั่นดี ๆ สุดพิเศษได้ที่ เอไอเอสช็อป เอไอเอสเทเลวิช และเอไอเอสบัดดี้ใกล้บ้านท่าน
วัดพระธาตุหนองบัว อยู่บริเวณชานเมืองอุบลราชธานี ไปทางทิศเหนือ สร้างในปี พ.ศ.2498 มี "พระเจดีย์ศรีมหาโพธิ์" ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในโอกาสครบรอบ 25 ศตวรรษของพระพุทธศาสนา โดยจำลองแบบมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ นับเป็นวัดเดียวในภาคอีสานที่มีเจดีย์แบบนี้ และยังมีชื่อเสียงในการทำเทียนพรรษาอีกด้วย
วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง (วัดป่าใหญ่) เป็นวัดเก่าแก่ และถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานี
มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองประดิษฐานในพระอุโบสถ คือ "พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง" เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2350 ทุกวันเพ็ญเดือน 5 (ประมาณเดือนเมษายน) ของทุกๆ ปี จะมีการทำบุญตักบาตร เทศน์มหาชาติชาดก และสรงน้ำปิดทองพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง
วัดมณีวนาราม (วัดป่าน้อย) สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.2332 ที่ชายดงอู่ผึ้ง ผู้สร้างคือ อุปราชก่ำ โอรสของพระประทุมวรราชสุริยวงษ์ (เจ้าคำผง) ผู้ก่อตั้งเมืองอุบลฯ เจ้าเมืองคนแรก ปัจจุบันตั้งอยู่ถนนหลวง ระหว่างวัดทุ่งศรีเมืองกับวัดมหาวนาราม มีพระแก้วโบราณ "พระแก้วโกเมน" เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวอุบล
วัดทุ่งศรีเมือง ตั้งอยู่บนถนนหลวงตัดกับถนนศรีณรงค์ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมของอีสานที่สวยงาม และสมบูรณ์ที่สุด คือ "หอไตรกลางน้ำ" ที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง เป็นศิลปะผสมผสานระหว่างไทย พม่า และลาว ตัวอาคารเป็นเรือนไทยแบบฝาปะกน ภายในมีตู้เก็บพระธรรมลงรักปิดทอง ส่วนลวดลายแกะสลักบนหน้าบันที่สวยงามทั้งสองด้านเป็นลักษณะของศิลปะลาว
วัดเลียบ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีลเถร ได้บุกเบิกสร้างขึ้น เป็นวัดธรรมยุตเมื่อ พ.ศ.2435 ในรัชกาลที่ 5 มีพระครูวิเวกพุทธกิจ (เสาร์) เป็นเจ้าอาวาส พร้อมด้วยภิกษุ สามเณร พระอุบลการประชานิจ (บุญชู พรหมวงศานนท์) พระสุรพลชยากร (อุ่น) ท้าวกรม ช้างทองจัน และสังกาจารปัจฌา สังการีจารเกษและทายิกาได้พร้อมกันมีศรัทธาขยายพื้นที่วัดเพิ่มเติม โดยสร้างรั้วรอบวัด เสนาสนะ และถาวรวัตถุ นมัสการรูปเหมือนหลวงปู่เสาร์ กนฺสีโล และกราบพระแก้วนิลกาฬ
วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี สร้างเมื่อ พ.ศ.2322 มีชื่อเดิมว่าวัดใต้เทิง ตามประวัติกล่าวไว้ว่า เดิมมีอยู่ 2 วัด คือวัดใต้เทิง และวัดใต้ท่า ต่อมาได้ยุบ 2 วัด มาเป็นวัดเดียวกันในปี พ.ศ.2545 เรียกว่า วัดใต้เทิง แปลว่า เหนือ หรือสูงขึ้นไป ต่อมาคำว่า เทิง หายไป เหลือแต่คำว่าวัดใต้ สิ่งสำคัญวัดนี้คือ อุโบสถสร้างด้วยศิลปะ 3 ชาติอยุ่หลังเดียวกัน คือ หลังคาเป็นทรงไทยประยุกต์ ส่วนฐานเป็นศิลปะขอมผสมเวียดนาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หนัก 1 ตื้อ จึงได้ชื่อว่า วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์คื้อ
วัดหลวง ตั้งอยู่ที่ถนนพรหมเทพ ริมฝั่งแม่น้ำมูล ระหว่างท่ากวางตุ้งกับท่าจวน (ตลาดใหญ่) เมื่อ พ.ศ.2324 เมื่อพระประทุมวรราชสุริยวงษ์ (เจ้าคำผง) ได้อพยพมาจากดอนมดแดง มาตั้งบ้านเมืองใหม่ที่ดงอู่ผึ้ง และได้ตั้งเมืองอุบลราชธานีขึ้น วัดหลวง จึงได้ชื่อว่าเป็นวัดแรกของเมืองอุบลราชธานี มีพระแก้วไพฑูรย์ เป็นหนึ่งในแก้วรัตนชาติ เป็นพระแก้วโบราณสำคัญของวัด
วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ตั้งอยู่โค้งถนนสมเด็จ ริมฝั่งแม่น้ำมูล สร้างในปี พ.ศ.2396 เป็นวัดธรรมยุตนิกายแห่งแรกของจังหวัดอุบลราชธานี มีพระอุโบสถที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน หลังคาเป็นแบบไทยภาคกลาง มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ซึ่งเป็นอิทธิพลมาจากจีน และเวียดนาม ตัวอาคารเลียนแบบตะวันตก ส่วนฐานเป็นแบบเขมร
วัดบูรพา เป็นที่จำพรรษาของเกจิอาจารย์ชื่อดังทางวิปัสนากรรมฐานหลายท่าน ได้แก่ อาจารย์มั่น ภูริทัตโต อาจารย์ลี ธัมมธโร อาจารย์เสาร์ กันตสีโล และอาจารย์สิงห์ ขันตยคโม ปัจจุบันมีรูปเหมือนทำจากหินบริสุทธิ์จากลำน้ำจ่างๆ ประดิษฐานอยู่ในสิมโบราณ เป็นที่เคารพ สักการะของชาวเมือง
วัดสระประสานสุข (วัดบ้านนาเมือง) ลอดซุ้มประตูพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ (ช้างสามเศียร) ขนาดใหญ่ ชมอุโบสถรูปเรือสุพรรณหงษ์ทำด้วยกระเบื้องเคลือบทั้งหลัง และชมอุโบสถสร้างบนเรืออนันตนาคราช กลางสระน้ำ กราบร่างหลวงปู่บุญมี โชติปาโล ที่เคารพศรัทธาของพุทธศานิกชนทั่วไป