ผลการประกวดต้นเทียน ปี 2565 ประเภทแกะสลัก ขนาดกลาง
จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน กำหนดจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2565 ขึ้นระหว่างวันที่ 11-17 กรกฎาคม 2565 ณ บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย จึงได้จัดการประกวดตันเทียนพรรษาในงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี
ผลการประกวดดับเทียนพรรษา งานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2565
ประเภทแกะสลัก ขนาดกลาง มีดังนี้
รางวัลชนะเลิศ ไต้แก่ อำเภอบุณฑริก
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ วัดสุทัศน์
รางวัลรองชนะเลิศอันตับ 2 ได้แก่ วัดแจ้ง
รางวัลชมเชย ได้แก่ วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ
รางวัลชมเชย ได้แก่ อำเภอเขมราฐ
รางวัลชนะเลิศ ไต้แก่ อำเภอบุณฑริก
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ วัดสุทัศน์
รางวัลรองชนะเลิศอันตับ 2 ได้แก่ วัดแจ้ง
รางวัลชมเชย ได้แก่ วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ
รางวัลชมเชย ได้แก่ อำเภอเขมราฐ
สำหรับ ต้นเทียนพรรษาอำเภอบุณฑริก เป็นต้นเทียนประเภทแกะสลัก ขนาดกลาง มีความกว้าง 2 เมตร 50 เซนติเมตร ความยาว 8 เมตร สูง 5 เมตร
องค์ประกอบของต้นเทียน ประกอบไปด้วยเรื่องราวทางพุทธประวัติขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้านหน้าแกะสลักเป็นรูปพญาศรีสัตตนาคราช 7 เศียร ที่คอยดูแลปกปักษ์รักษาพระพุทธศาสนามายาวนาน
ถัดมาเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ มหาวิเนษกรมณ์ เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช ตอนพญาวัสวดีมารผู้ปกครองสวรรค์ชั้นที่ 6 ได้รู้ล่วงหน้าว่า ถ้าเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบวช จะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น จึงต้องชัดขวางการออกบวชในครั้งนี้ จึงได้ห้ามและกล่าวกับเจ้าชายสิทธัตถะว่า ท่านอย่าเพิ่งออกบวชเลย อีก 7 วันข้างหน้า ท่านจะได้ครองราชย์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ มีสมบัติมากมายมหาศาล มีบริวารสุดจะนับประมาณได้ ท่านจะมีความสุขกับการเป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่จะหาผู้ใดทัดเทียมมิได้เลย
เจ้าชายสิทธัตะจึงตรัสตอบพญามารไปว่า " อย่ามาห้ามเราเลยพญาสวัสวดีมาร เราตัดสินใจแล้ว สมบัติพระเจ้าจักรพรรดิไม่มีความหมายสำหรับเราเลย ถ้าชาวโลกยังต้องทุกข์ทรมานกันอยู่ไม่รู้จักจบสิ้นเช่นนี้ เราจะแสวงหาหนทางที่จะออกไปจากความทุกข์นี้ให้จงได้ " สิ้นพระสุรเสียงของเจ้าชายสิทธัตถะ พญามารก็ได้อันตทานหายวับไปกับตา
ถัดมาช่วงฐานรองรับลำต้นเทียน เป็นนาคอัสดร ตัวเป็นม้า มีหัวและเกล็ดแบบนาค เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ ลำต้นเทียนแกะสลักเป็นรูปเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จไปห้องบรรทมของพระนางพิมพาทรงกอดพระราหลไว้ข้างพระวรกาย ด้วยเยื่อใยแห่งความผูกพัน ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปชื่นชมราหุลราชกุมาร ซึ่งเพิ่งประสูติ อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าพระนางพิมพาจะตื่น จึงทรงตัดใจจากมาอย่างเด็ดเดี่ยวและไม่เหลียวหลังกลับไปอีกเลย ประกอบกับลวดลายไทย กนกก้านเลื้อย กนกก้านขด กนกเปลว กนกสามตัว และลวดลายพรรณพฤกษา
ถัดมาต้านหลัง เป็นเจ้าชายสิทธัตถะทรงม้ากัณฐกะออกมาจากพระราชวัง กับนายฉันนะ จวบจนใกล้รุ่ง เจ้าชายได้เดินทางมาถึงแม่น้ำอโนมา ด้วยบุญญาธิการที่พระองค์เคยสั่งสมมาในอดีตชาติ ทำให้เหล่าเทวดา พระอินทร์ พระพรหม ที่สถิตย์อยู่ในวิมานชั้นต่างๆ ลงมาปกปักรักษาให้เจ้าขายข้ามแม่น้ำอโนมาไปด้วยความปลอดภัย และร่วมอนุโมทนาสาธุการ แช่ช้องร้องสรรเสริญในการเสด็จออกบวชในครั้งนั้น
ด้านข้างทั้งสอง ประกอบไปด้วยเหล่าเทพเทวดาถือธงถือฉัตรประกอบลวดลายไทยอย่างวิจิตร ตระการตา
ผลการประกวดต้นเทียนพรรษา อุบลราชธานี ประจำปี 2565
ผลการประกวดต้นเทียน ปี 2565 ประเภทแกะสลัก ขนาดใหญ่
ผลการประกวดต้นเทียน ปี 2565 ประเภทแกะสลัก ขนาดกลาง
ผลการประกวดต้นเทียน ปี 2565 ประเภทแกะสลัก ขนาดเล็ก
ผลการประกวดต้นเทียน ปี 2565 ประเภทติดพิมพ์ ขนาดใหญ่
ผลการประกวดต้นเทียน ปี 2565 ประเภทติดพิมพ์ ขนาดกลาง
ผลการประกวดต้นเทียน ปี 2565 ประเภทติดพิมพ์ ขนาดเล็ก
ผลการประกวดต้นเทียน ปี 2565 ประเภทเทียนโบราณแบบดั้งเดิม ขนาดใหญ่
ผลการประกวดต้นเทียน ปี 2565 ประเภทเทียนโบราณแบบดั้งเดิม ขนาดเล็ก