เทียนพรรษาพระราชทาน และผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน ถึงอุบลฯ
วันที่ 6 กรกฎาคม 2562 เวลาประมาณ 14.05 น. ณ ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และนางยุพาภร วิฑูรย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี อัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ ผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่จังหวัดอุบลราชธานี
เทียนพรรษาพระราชทาน และผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน ถึงจังหวัดอุบลราชธานี โดยสายการบินไทยสมายล์ แอร์เวย์ จากนั้นอัญเชิญประดิษฐานบนรถบุษบก และรถบุปผาชาติ เคลื่อนขบวนออกจากท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ไปประดิษฐาน ณ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษาและประชาชน ร่วมในพิธีรอรับเทียนพรรษาพระราชทานและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน เพื่อประดิษฐานไว้ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และจะได้อัญเชิญเข้าร่วมขบวนในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 จากนั้นจะได้อัญเชิญนำไปทอดถวายเพื่อเป็นพุทธบูชาตลอดเทศกาลเข้าพรรษา ณ วัดศรีอุบลรัตนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ต่อไป
สำหรับเทียนพรรษาพระราชทานนี้ มีจุดเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ.2522 คณะกรรมการจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ได้พิจารณาร่วมกันว่า การจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานีเป็นงานใหญ่ระดับชาติ มีการจัดงานอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน และมีการประชาสัมพันธ์ไปยังนานาชาติ ด้วย จึงได้พร้อมใจกันกราบบังคมทูล ขอพระราชทานเทียนพรรษาจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ในเทศกาลเข้าพรรษาเป็นกรณีพิเศษ นอกเหนือจากที่พระองค์ทรงกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานแก่พระอารามหลวงในกรุงเทพมหานครปกติ เพื่ออัญเชิญเป็นเทียนชัยมิ่งมงคล นำขบวนแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี และนำไปจุดบูชาพระรัตนตรัยในพระอารามหลวงแห่งใดแห่งหนึ่งใน จังหวัดอุบลราชธานีต่อไป
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเทียนพรรษาแก่จังหวัดอุบลราชธานีตามความประสงค์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีในขณะนั้น (นายประมูล จันทรจำนง) พร้อมคณะ ซึ่งเป็นผู้แทนคณะกรรมการจัดงานเข้าเฝ้ารับพระราชทานเทียนพรรษาจากพระองค์ท่าน ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ก่อนวันเริ่มงานประเพณีแห่เทียนพรรษา 7 วัน ได้มีพิธีรับอย่างสมพระเกียติ พร้อมอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นเทียนชัยมิ่งมงคลในงาน เป็นเทียนพรรษาต้นเดียวที่พระราชทานให้กับต่างจังหวัด และในขบวนแห่เทียนพรรษาต่อไป นับจากปี พ.ศ. 2522 เป็นต้นมา
เทียนพรรษาพระราชทาน เป็นเทียนหล่อสำเร็จ ประดับด้วยลายไทย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว สูงประมาณ 1 เมตร ทรง 8 เหลี่ยม คล้ายพานรองรับ พระราชทานพร้อมกับต้นเทียน 3 อย่าง ได้แก่ ไจฝ้ายสำหรับทำไส้เทียน 1 ไจ เทียนชนวนทำจากขี้ผึ้งแท้ 1 เล่ม และไม้ขีดไฟ 1 กลัก เมื่อผู้เข้าเฝ้าฯ ได้รับพระราชทานเทียนพรรษาแล้ว จะอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานมาทางเครื่องบิน และมีพิธีรับเทียนพรรษาพระราชทานอย่างสมพระเกียรติ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราธานี จากนั้นเคลื่อนขบวนอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน ไปยังจุดที่ตั้งที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
และในปี พ.ศ.2552 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพระราชทานผ้าอาบน้ำฝนเพิ่มในพิธีอัญเชิญเทียนพรรษามาถึงปัจจุบัน
การกำหนดว่า ในแต่ละปี จะนำเทียนพรรษาพระราชทาน และผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน ไปถวายยังพระอารามหลวงแห่งใดนั้น ให้ใช้วิธีหมุนเวียนกันไปตามวัดพระอารามหลวงของจังหวัด ซึ่งมีด้วยกัน 3 แห่ง ได้แก่ วัดสุปัฏนารามวรวิหาร วัดมหาวนาราม และวัดศรีอุบลรัตนาราม สำหรับในปี พ.ศ.2562 นี้ กำหนดถวาย ณ วัดศรีอุบลรัตนาราม วันที่ 17 กรกฎาคม 2562