เยือนชุมชน คนทำเทียน วัดใต้ท่า ต้นเทียนติดพิมพ์ ขนาดใหญ่
เมื่อครั้งก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี ปี พ.ศ.2325 เวลานั้นเมืองอุบลราชธานีมีวัดสำคัญ 8 วัด ได้แก่ วัดหลวง วัดเหนือท่า วัดเหนือเทิง วัดกลาง วัดใต้เทิง วัดหนองยาง และวัดป่าใหญ่ จนถึงปี พ.ศ.2457 พระราชมุนี (ติสโส อ้วน แสนทวีสุข ป.ธ.5) เจ้าคณะมณฑลอุบลราชธานี พร้อมด้วยกรมการเมือง ได้พิจารณาว่า มีวัดจำนวนมากยากแก่การดูแล จึงได้ยุบวัดต่างๆ ลง 3 วัด ได้แก่ วัดเหนือท่า วัดเหนือเทิง และวัดใต้ท่า ให้เป็นที่ศาสนสมบัติกลางในกรมการศาสนา ในส่วนวัดใต้ท่านี้ ได้เปลี่ยนสภาพเป็นที่ทำสวนของวัดใต้เทิง (ปัจจุบันคือ วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ)
ต่อมาในปี พ.ศ.2472 บริษัทไฟฟ้าอุบล ได้มาเช่าที่เพื่อทำโรงไฟฟ้าแห่งแรกของจังหวัดอุบลราชธานี ออกสัมปทานวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2472 จนเป็นที่ตั้งสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 จังหวัดอุบลราชธานี จนถึง พ.ศ.2555 การไฟฟ้าจึงได้ยกเลิกการเช่า และย้ายออกไป รวมระยะเวลาการเช่า 83 ปี
จนถึงปี พ.ศ.2563 มหาเถรสมาคม มีมติที่ 618/2563 เห็นชอบบูรณปฎิสังชรณ์วัดใต้ท่า (ร้าง) เพื่อขอยกวัดใต้ท่าเป็นวัดที่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา โดยมี พระราชธรรมโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี (ธรรมยุต) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพระครูอุบลคณาภรณ์ (วีระชัย อริญชโย) เจ้าอาวาสวัดเลียบ เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต 2 (ธ) ดำเนินการบูรณะ
จากนั้นเป็นต้นมา วัดใต้ท่า ก็เริ่มปรับสภาพเป็นวัดที่สมบูรณ์ และล่าสุดปี พ.ศ.2566 วัดใต้ท่าส่งต้นเทียนเข้าประกวดในงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประเภทติดพิมพ์ ขนาดเล็ก ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2
ปีนี้ งานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธษนี ประจำปี 2567 วัดใต้ท่า ขยับขึ้นมาท้าชน ต้นเทียนพรรษา ประเภทติดพิมพ์ ขนาดใหญ่ โดยมีช่างพีระพงษ์ เก็บเงิน เป็นหัวหน้าช่างเทียน มีผลงานจากการทำต้นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ ขนาดใหญ่ ให้วัดหายโศก มาแล้ว