guideubon

 

 

11 คุ้มวัดร่วมจัดทำต้นเทียนบุญมหาชาติ ทั้ง 13 กัณฑ์

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-01.jpg

วันที่ 3 มิถุนายน 2561 เป็นที่ทราบกันดีว่า ในงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีนั้น ถือเป็นเอกลักษณ์ของต้นเทียนเมืองอุบลฯ ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของพุทธชาดกขึ้นไว้บนขบวนต้นเทียนทุกคุ้มวัด จะไม่มีขบวนต้นเทียนที่ล้อเลียนการเมือง หรือขบวนต้นเทียนที่เป็นแฟนซี เนื่องจากชาวอุบลถือว่า การจัดทำต้นเทียนนั้น ถือเป็นพุทธบูชา จึงไม่นำเรื่องทางโลกมาเกี่ยวข้อง

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-03.jpg

ตลอดระยะเวลาร้อยกว่าปี ของงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ช่างเทียนแต่ละคุ้มวัด ต่างบรรจงลงฝีม้ายลายมือสร้างต้นเทียนขึ้นอย่างวิจิตตระการตา มีการประกวดแข่งขันกัน กระทั่งสามารถแบ่งการประกวดได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ ต้นเทียนประเภทแกะสลัก ต้นเทียนประเภทติดพิมพ์ และต้นเทียนโบราณ (มัดรวม) ซึ่งเป็นการซุ่มทำของช่างเทียนแต่ละคุ้มวัด ทำให้บางปีมีต้นเทียนที่เล่าเรื่องพุทธชาดกซ้ำๆ กัน หรือการจัดองค์ประกอบต้นเทียนใกล้เคียงกัน

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-02.jpg

ในปี พ.ศ.2559 งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษาอุบลราชธานี ได้เปิดศักราชใหม่ของการเล่าเรื่องพุทธชาดก ด้วยการจัดทำต้นเทียนพรรษาขบวนยาวที่สุดในโลก สร้างสีสันให้งานประเพณีแห่เทียนเป็นอย่างมาก โดยขบวนต้นเทียนดังกล่าว มีความยาวถึง 40 เมตร ประกอบด้วยต้นเทียนขนาดกลาง 4 ขบวนๆ ละ 10 เมตร ผูกร้อยเรื่องราวประวัติของประพุทธเจ้า 4 ปาง ได้แก่ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน

ขบวนต้นเทียนพรรษาประวัติศาสตร์ ยาวที่สุดในโลก

ทศชาติชาดก-12-ปก.jpg

และในปีถัดมา พ.ศ.2560 จังหวัดอุบลราชธานี ได้ทำการคัดเลือกช่างเทียน 10 คุ้มวัด เพื่อจัดทำต้นเทียนทศชาติชาดก (10 ชาติสุดท้ายก่อนเป็นพระพุทธเจ้า) ซึงเป็นต้นเทียนขนาดกลาง มีทั้งประเภทแกะสลักและติดพิมพ์ ถือเป็นครั้งแรกที่มีการลำดับต้นเทียนเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องสอดคล้องกัน

ขบวนต้นเทียน ทศชาติชาดก ร่วมขบวนงานแห่เทียนอุบล สุดอลังการ!!

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-01.jpg

สำหรับงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี ประจำปี 2561 นี้ มีการตกลงร่วมกัน จัดทำต้นเทียนบุญมหาชาติ ทั้ง 13 กัณฑ์  ซึ่งเป็นต้นเทียนพรรษาขนาดใหญ่ มีทั้งประเภทแกะสลักและติดพิมพ์ โดยมีคุ้มวัดที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำ ต้นเทียนบุญมหาชาติ ทั้ง 13 กัณฑ์ ดังนี้

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์01.jpg

1. กัณฑ์ทศพร ต้นเทียนประเภทแกะสลัก โดยคุ้มวัดไชยมงคล

เป็นกัณฑ์ที่พระอินทร์ประสาทพรแก่พระนางผุสดี ก่อนที่จะจุติลงมาเป็นพระราชมารดาของพระเวสสันดร ภาคสวรรค์ พระนางผุสดีเทพอัปสรสิ้นบุญ ท้าวสักกะเทวราช สวามีทรงทราบ จึงพาไปประทับยังสวนนันทวันในเทวโลก พร้อมให้พร 10 ประการ คือ ให้ได้อยู่ในปราสาทของพระเจ้าสิริราชแห่งนครสีพี ขอให้มีจักษุดำดุจนัยน์ตาลูกเนื้อ ขอให้มีคิ้วดำสนิท ขอให้พระนามว่าผุสดี ขอให้มีโอรสที่ทรงเกียรติยศเหนือกษัตริย์ทังหลายและมีใจบุญ ขอให้มีครรภ์ที่ผิดไปจากสตรีสามัญ คือ แบนราบในเวลาทรงครรภ์ ขอให้มีถันงามอย่ารู้ดำและหย่อนยาน ขอให้มีเกศาดำสนิท ขอให้มีผิวงาม และข้อสุดท้ายขอให้มีอำนาจปลดปล่อยนักโทษได้

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์02.jpg

2. กัณฑ์หิมพานต์ ต้นเทียนประเภทติดพิมพ์ โดยคุ้มวัดบูรพาราม

เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรบริจาคทานช้างปัจจัยนาค ประชาชนสีพีโกรธแค้นจึงขับไล่ให้ไปอยู่เขาวงกต พระนางเทพผุสดีได้จุติลงมาเป็นราชธิดาของพระเจ้ามัททราช เมื่อเจริญชนม์ได้ 16 ชันษา จึงได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้ากรุงสญชัยแห่งสีวิรัฐนคร ต่อมาได้ประสูติพระโอรสนามว่า "เวสสันดร"ในวันที่ประสูตินั้นได้มีนางช้างฉัททันต์ตกลูกเป็นช้างเผือกขาวบริสุทธิ์จึงนำมาไว้ในโรงช้างต้นคู่บารมี ให้นามว่า "ปัจจัยนาค" เมื่อพระเวสสันดรเจริญชนม์ 16 พรรษา ราชบิดาก็ยกราชสมบัติให้ครอบครองและทรงอภิเษกกับนางมัทรี พระราชบิดาราชวงศ์มัททราช มีพระโอรสชื่อ ชาลี ราชธิดาชื่อ กัณหา พระองค์ได้สร้างโรงทาน บริจาคทานแก่ผู้เข็ญใจ ต่อมาพระเจ้ากาลิงคะแห่งนครกาลิงครัฐได้ส่งพราหมณ์มาขอพระราชทานช้างปัจจัยนาค พระองค์จึงพระราชทานช้างปัจจัยนาคแก่พระเจ้ากาลิงคะ ชาวกรุงสัญชัย จึงเนรเทศพระเวสสันดรออกนอกพระนคร

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์03.jpg

3. กัณฑ์ทานกัณฑ์ ต้นเทียนประเภทแกะสลัก โดยคุ้มวัดทุ่งศรีเมือง

เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรทรงแจกมหาสัตสดกทาน คือ การแจกทานครั้งยิ่งใหญ่ ก่อนที่พระเวสสันดรพร้อมด้วยพระนางมัทรี ชาลีและกัณหาออกจากพระนคร จึงทูลขอพระราชทานโอกาสบำเพ็ญมหาสัตสดกทาน คือ การให้ทานครั้งยิ่งใหญ่ อันได้แก่ ช้าง ม้า โคนม นารี ทาสี ทาสา สรรพวัตถาภรณ์ต่างๆ รวมทั้งสุราบานอย่างละ 700

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์04.jpg

4. กัณฑ์วนประเวศ ต้นเทียนประเภทติดพิมพ์ โดยคุ้มวัดศรีประดู่

เป็นกัณฑ์ที่สี่กษัตริย์เดินดงบ่ายพระพักตร์สู่เขาวงกต เมื่อเดินทางถึงนครเจตราชทั้งสี่กษัตริย์จึงแวะเข้าประทับพักหน้าศาลาพระนคร กษัตริย์ผู้ครองนครเจตราชจึงทูลเสด็จครองเมือง แต่พระเวสสันดรทรงปฎิเสธ และเมื่อเสด็จถึงเขาวงกตได้พบศาลาอาศรมซึ่งท้าววิษณุกรรมเนรมิตตามพระบัญชาของท้าวสักกะเทวราช กษัตริย์ทั้งสี่จึงทรงผนวชเป็นฤๅษีพำนักในอาศรมสืบมา

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์05.jpg

5. กัณฑ์ชูชก และ 6. กัณฑ์จุลพน ต้นเทียนประเภทแกะสลัก โดยคุ้มวัดผาสุการาม

เป็นกัณฑ์ที่ชูชกได้นางอมิตดามาเป็นภรรยา และหมายจะได้โอรสและธิดาพระเวสสันดรมาเป็นทาส ในแคว้นกาลิงคะมีพราหมณ์แก่ชื่อชูชก พำนักในบ้านทุนวิฐะ เที่ยวขอทานตามเมืองต่างๆ เมื่อได้เงินถึง 100 กหาปณะ จึงนำไปฝากไว้กับพราหมณ์ผัวเมีย แต่ได้นำเงินไปใช้เป็นการส่วนตัว เมื่อชูชกมาทวงเงินคืนจึงยกนางอมิตดาลูกสาวให้แก่ชูชก นางอมิตดาเมื่อมาอยู่ร่วมกับชูชก ได้ทำหน้าที่ของภรรยาที่ดี ทำให้ชายในหมู่บ้านเปรียบเทียบกับภรรยาตน หญิงในหมู่บ้านจึงเกลียดชังและรุมทำร้ายทุบตี นางอมิตดา ชูชกจึงเดินทางไปทูลขอกัณหาชาลีเพื่อเป็นทาสรับใช้ เมื่อเดินทางมาถึงเขาวงกตก็ถูกขัดขวางจากพรามเจตบุตรผู้รักษาประตูป่า

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์06.jpg

เป็นกัณฑ์ที่พรานเจตบุตรหลงกลชูชก และชี้ทางสู่อาศรมจุตดาบส ชูชกได้ชูกลักพริกขิงแก่พรานเจตบุตรอ้างว่าเป็นพระราชสาสน์ของพระเจ้ากรุงสญชัย จึงได้พาไปยังต้นทางที่จะไปอาศรมฤๅษี

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์07.jpg

7. กัณฑ์มหาพน ต้นเทียนประเภทแกะสลัก โดยอำเภอบุณฑริก

เป็นกัณฑ์ป่าใหญ่ ชูชกหลอกล่ออจุตฤๅษีให้บอกทางสู่อาศรมพระเวสสันดรแล้วก็รอนแรมเดินไพรไปหา เมื่อถึงอาศรมฤๅษี ชูชกได้พบกับอจุตฤๅษี ชูชกใช้คารมหลอกล่อจนอจุตฤๅษีจึงให้ที่พักหนึ่งคืนและบอกเส้นทางไปยังอาศรมพระเวสสันดร

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์08.jpg

8. กัณฑ์กุมาร และ 9. กัณฑ์มัทรี ต้นเทียนประเภทติดพิมพ์ โดยคุ้มวัดแจ้ง

เป็นกัณฑ์ที่พระเวสสันดรทรงให้ทานสองโอรสแก่เฒ่าชูชก พระนางมัทรีฝันร้ายเหมือนบอกเหตุแห่งการพลัดพราก รุ่งเช้าเมื่อนางมัทรีเข้าป่าหาอาหารแล้ว ชูชกจึงเข้าเฝ้าทูลขอสองกุมาร สองกุมารจึงพากันลงไปซ่อนตัวอยู่ที่สระ พระเวสสันดรจึงลงเสด็จติดตามสองกุมาร แล้วจึงมอบให้แก่ชูชก

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์09.jpg

เป็นกัณฑ์ที่พระนางมัทรีทรงได้ตัดความห่วงหาอาลัยในสายเลือด อนุโมทนาทานโอรสทั้งสองแก่ชูชก พระนางมัทรีเดินเข้าไปหาผลไม้ในป่าลึก จนคล้อยเย็นจึงเดินทางกลับอาศรม แต่มีเทวดาแปลงกายเป็นเสือนอนขวางทาง จนค่ำเมื่อกลับถึงอาศรมไม่พบโอรส พระเวสสันดรได้กล่าวว่านางนอกใจ จึงออกเที่ยวหาโอรสและกลับมาสิ้นสติต่อเบื้องพระพักตร์ พระองค์ทรงตกพระทัยลืมตนว่าเป็นดาบสจึงทรงเข้าอุ้มพระนางมัทรีและทรงกันแสง เมื่อพระนางมัทรีฟื้นจึงถวายบังคมประทานโทษ พระเวสสันดรจึงบอกความจริงว่าได้ประทานโอรสแก่ชูชกแล้ว หากชีวิตไม่สิ้นคงจะได้พบ นางจึงได้ทรงอนุโมทนา

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์10.jpg

10. กัณฑ์สักกบรรพ ต้นเทียนประเภทแกะสลัก โดยคุ้มวัดเมืองเดช

เป็นกัณฑ์ที่พระอินทร์จำแลงกายเป็นพราหมณ์มาขอพระนางมัทรี แล้วถวายคืนพร้อมถวายพระพร 8 ประการ ท้าวสักกะเทวราชเสด็จแปลงเป็นพราหมณ์เพื่อทูลขอนางมัทรี พระเวสสันดรจึงพระราชทานให้ พระนางมัทรีก็ยินดีอนุโมทนาเพื่อร่วมทานบารมีให้สำเร็จพระสัมโพธิญาณ เป็นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวสะท้าน ท้าวสักกะเทวราชในร่างพราหมณ์จึงฝากนางมัทรีไว้ยังไม่รับไป ตรัสบอกความจริงและถวายคืนพร้อมถวายพระพร 8 ประการ

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์11.jpg

11. กัณฑ์มหาราช ต้นเทียนประเภทติดพิมพ์ โดยคุ้มวัดพลแพน

เป็นกัณฑ์ที่เทพเจ้าจำแลงองค์ทำนุบำรุงขวัญสองกุมารก่อนเสด็จนิวัติถึงมหานครสีพี เมื่อเดินทางผ่านป่าใหญ่ชูชกจะผูกสองกุมารไว้ที่โคนต้นไม้ ส่วนตนเองปีนขึ้นไปนอนต้นไม้ เหล่าเทพเทวดาจึงแปลงร่างลงมาปกป้องสองกุมาร จนเดินทางถึงกรุงสีพี พระเจ้ากรุงสีพีเกิดนิมิตฝันตามคำทำนายยังความปีติปราโมทย์ เมื่อเสด็จลงหน้าลานหลวงตอนรุ่งเช้าทอดพระเนตรเห็นชูชกพากุมารน้อยสององค์ ทรงทราบความจริงจึงพระราชทานค่าไถ่คืน ต่อมาชูชกก็ดับชีพตักษัยด้วยเพราะเดโชธาตุไม่ย่อย ชาลีจึงได้ทูลขอให้ไปรับพระบิดาพระมารดานิวัติพระนคร ในขณะเดียวกันเจ้านครลิงคะได้โปรดคืนช้างปัจจัยนาคแก่นครสีพี

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์12.jpg

12. กัณฑ์ฉกษัตริย์ ต้นเทียนประเภทแกะสลัก โดยคุ้มวัดศรีอุบลรัตนาราม

เป็นกัณฑ์ที่ทั้งหกกษัตริย์ถึงวิสัญญีภาพสลบลงเมื่อได้พบหน้า ณ อาศรมดาบสที่เขาวงกต พระเจ้ากรุงสญชัยใช้เวลา 1 เดือน กับ 23 วันจึงเดินทางถึงเขาวงกต เสียงโห่ร้องของทหารทั้ง 4 เหล่า พระเวสสันดรทรงคิดว่าเป็นข้าศึกมารบนครสีพี จึงชวนพระนางมัทรีขึ้นไปแอบดูที่ยอดเขา พระนางมัทรีทรงมองเห็นกองทัพพระราชบิดาจึงได้ตรัสทูลพระเวสสันดรและเมื่อหกกษัตริย์ได้พบหน้ากันทรงกันแสงสุดประมาณ รวมทั้งทหารเหล่าทัพ ทำให้ป่าใหญ่สนั่นครั่นครืนท้าวสักกะเทวราชจึงได้ทรงบันดาลให้ฝนตกประพรมหกกษัตริย์และทวยหาญได้หายเศร้าโศก

ต้นเทียนบุญมหาชาติ-งานแห่เทียนอุบล-กัณฑ์13.jpg

13. กัณฑ์นครกัณฑ์ ต้นเทียนประเภทแกะสลัก โดยคุ้มวัดเลียบ

เป็นกัณฑ์ที่หกกษัตริย์นำพยุหโยธาเสด็จนิวัติพระนคร พระเวสสันดรขึ้นครองราชย์แทนพระราชบิดา
พระเจ้ากรุงสญชัยตรัสสารภาพผิด พระเวสสันดรจึงทรงลาผนวชพร้อมทั้งพระนางมัทรี และเสด็จกลับสู่สีพีนคร เมื่อเสด็จถึงจึงรับสั่งให้ชาวเมืองปล่อยสัตว์ที่กักขัง ครั้นยามราตรีพระเวสสันดรทรงปริวิตกว่า รุ่งเช้าประชาชนจะแตกตื่นมารับบริจาคทาน พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่ประชาชน ท้าวโกสีห์ได้ทราบจึงบันดาลให้มีฝนแก้ว ๗ ประการ ตกลงมาในนครสีพีสูงถึงหน้าแข้ง พระเวสสันดรจึงทรงประกาศให้ประชาชนขนเอาไปตามปรารถนา ที่เหลือให้ขนเข้าพระคลังหลวง ในกาลต่อมาพระเวสสันดรเถลิงราชสมบัติปกครองนครสีพีโดยทศพิธราชธรรมบ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขตลอดพระชนมายุ

 

 

copyright 2005 www.GuideUbon.com สำนักงานไกด์อุบลดอทคอม เลขที่ 89/1 ถนนพโลรังฤทธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000 ติดต่อไกด์อุบล : webmaster@guideubon.com | msn : guide_ubon@hotmail.com | Tel : 080-4850511