จากความร่วมมือด้านวัฒนธรรมของสองจังหวัดต่างภูมิภาค ได้แก่ จากภาคอีสาน จังหวัดอุบลราชธานี สู่ภาคใต้ จังหวัดสุราษฏร์ธานี ภายใต้แนวคิด "เข้าพรรษา เที่ยวงานแห่เทียนอุบลราชธานี ออกพรรษา เที่ยวงานชักพระ สุราษฎร์ธานี" โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะนำเรือพนมพระ รางวัลชนะเลิศ งานประเพณีชักพระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลราชธานี และจังหวัดอุบลราชธานีก็จะนำต้นเทียนพรรษาที่ชนะเลิศการประกวด พร้อมขบวนแห่ไปร่วมในงานออกพรรษาที่สุราษฎร์ธานีเช่นกัน

สำหรับต้นเทียนพรรษาที่จะเดินทางไปแสดงในงานประเพณีชักพระ จังหวัดสุราษฏร์ธานี ประจำปี 2559 นั้น จังหวัดอุบลราชธานีได้คัดเลือกต้นเทียนพรรษาจากคุ้มวัดเลียบ อ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าของรางวัลชนะเลิศต้นเทียนพรรษา ประเภทแกะสลักขนาดกลาง ประจำปี 2558 โดยเห็นว่ามีความเหมาะสมที่สุด ทั้งในด้านของรูปร่างลักษณะ และการเคลื่อนย้ายระยะทางที่ไกลมากๆ

ข้อมูลที่น่าสนใจของต้นเทียนวัดเลียบ

ต้นเทียนพรรษาวัดเลียบ เป็นต้นเทียนพรรษาประเภทแกะสลัก ขนาดกลาง ขนาดของรถกว้าง 2.50 x 6.00 เมตร ด้านหน้าแกะสลักเป็นภาพพระนารายณ์ทรงครุฑ ฐานรองรับต้นเทียน แกะสลักเป็นภาพพระเนมิราช ทรงราชรถตามคำเชิญของพระอินทร์ และมีมาตลีบุตร นำชมเมืองนรกและสวรรค์ ด้านหลังต้นเทียน แกะสลักเป็นภาพเรื่องราวของพระนางผุสดี เมื่อถึงคราวจะสิ้นบุญจากสวรรค์ พระนางได้ทูลขอพร 10 ประการจากท้าวสักกะเทวราช ผู้เป็นพระสวามี ก่อนจะไปบังเกิดในโลกมนุษย์ ท้าวสักกะเทวราชทรงประทานพรตามที่นางผุสดีทูลขอ จึงเรียกว่า กัณฑ์ทศพร

ลำต้นเทียน มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 45 ซม. ความสูงจากฐานถึงยอด 2.50 ซม. แกะสลักเป็นลวดลายกนกเปลวเพลงอันงดงาม ประกอบภาพตอนที่พรามณ์ชูชกไปเข้าไปขอกุมาร กัณหาชาลีจากพระเวสสันดร (กัณฑ์กุมาร)

ด้านหลังรถต้นเทียน แกะสลักเป็นภาพตราสัญลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2558

ต้นเทียนพรรษาวัดเลียบ อำนวยการจัดทำโดย พระครูอุบลคณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเลียบ และมีนายพุทธศักดิ์ ภาดี เป็นหัวหน้าช่าง สิ้นงบประมาณ 400,000 บาท

เรียบเรียงข่าวโดย ไกด์อุบล