วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 นายประมวล รัตนวัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ลงนามประกาศอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เรื่อง ปิดการท่องเที่ยวและพักแรมเส้นทางบำดงนาทามและผาชะนะได ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2567 ดังนี้

ตามที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้เปิดให้มีการท่องเที่ยวและพักแรม ในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวผาชะนะได ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนโดยทั่วไป ได้สัมผัสและศึกษาธรรมชาติโดยตรง เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนและท้องถิ่น และให้นักท่องเที่ยวได้มีจิตสำนึกในการรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ นั้น

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้พิจารณาแล้ว เนื่องจากขณะนี้ได้เริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง บริเวณผาชะนะไดประสบปัญหาขาดแคลนน้ำบริโภคอุปโภคสำหรับบริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากต้องอาศัยน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปัจจุบันนี้เริ่มแห้ง ไม่เพียงพอต่อการบริการนักท่องเที่ยว และเป็นการปิดแหล่งท่องเที่ยวตามฤดูกาล

จึงประกาศ ปิดการท่องเที่ยวและพักค้างแรมในแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางป่าดงนาทามและผาชะนะได ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2567  - 31 พฤษภาคม 2567

สำหรับ ผาชะนะได เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก ถือเป็นหน้าผาที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม อีกทั้งกรมอุตุนิยมวิทยาใช้เป็นจุดที่ใช้ในการบอกเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นนั้นเอง

บริเวณผาชะนะได นอกจากจะเห็นแนวแม่น้ำโขงที่ทอดยาวจากเหนือลงใต้แล้ว ยังได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าเขียวขจีกว้างสุดลูกหูลูกตา  ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะในตอนเช้าจะได้เห็นสายธารของหมอกที่ไหลผ่านด้านหน้าผาด้านหลังเป็นเทือกเขาของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวสูงต่ำสลับกันไปผาชะนะไดอยู่ในเขตพื้นที่ป่าดงนาทาม ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกสุดของประเทศไทย หากแสงแรกของตะวันสาดส่องจะกระทบหน้าผาชะนะได

แต่เดิม การเข้าไปสู่ผาชะนะไดนั้นค่อนข้างลำบาก ทุกลักทุเล เนื่องจากมีถนนลาดยางที่รถทุกชนิดจะเข้าไปได้ก็มาแค่ทางแยกไปวัดถ้ำปาฏิหาริย์เท่านั้น นอกนั้นในระยะทางเกือบ 13 กิโลเมตรที่เหลือ จะเป็นทางที่แล่นเข้าไปบนทางลำลองที่เป็นลูกรัง แนวหิน บางช่วงทางต้องลัดเลาะไปตามช่องหินแคบ ๆ บางทีขึ้นเนินแล้วหักศอกลง บางช่วงผ่านเข้าไปจะเป็นทรายที่เกือบท่วมยางรถยนต์

ปัจจุบัน เส้นทางสู่ผาชะนะได สะดวกสบายด้วยถนนลาดยางตลอดสาย ตั้งแต่แยกเข้าวัดถ้ำปาฏิหาริย์ไปจนถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวดงนาทาม ซึ่งเป็นทั้งจุดจอดรถ จุดพักแรม ตั้งแคมป์กางเต็นท์ และจุดเริ่มต้นเดินเท้าไปอีก 500 เมตร เพื่อสัมผัสกับแสงแรกแห่งสยามที่ผาชะนะได