guideubon

 

เชิญร่วมสักการะ 3 วัดพระอารามหลวง จังหวัดอุบลราชธานี

สักการะ-พระอารามหลวง-เมืองอุบล-01.jpg

พระอารามหลวง คือ วัดที่พระมหากษัตริย์ หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงสร้างหรือทรงบูรณปฏิสังขรณ์ หรือมีผู้สร้างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นวัดหลวง และวัดที่ราษฎรสร้าง หรือบูรณปฏิสังขรณ์ และขอพระราชทานให้ทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวง ซึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีพระอารามหลวงถึง 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่ วัดมหาวนาราม วัดสุปัฏนารามวรวิหาร และวัดศรีอุบลรัตนาราม ในช่วงงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานีจะอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทาน ไปถวายยัง 3 พระอารามหลวง สลับกันไปทุกปี ขอเชิญชวนไปสักการะ 3 พระอารามหลวงแห่งเมืองดอกบัวครับ

วัดมหาวนาราม_อุบล-01.jpg

วัดมหาวนาราม มหานิกาย เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ

พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง-วัดมหาวนาราม-อุบล-01.jpgวัดมหาวนาราม ตั้งขึ้นเป็นสำนักสงฆ์เมื่อ พ.ศ.2322 โดยพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนแรก ต่อมาในสมัยพระพรหมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวทิศพรหม) เจ้าเมืองอุบลราชธานี คนที่ 2 ได้มาก่อสร้างวิหารอารามต่อจนสำเร็จใน พ.ศ.2350 และได้ยกฐานะเป็นวัดชื่อว่า “วัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์” เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในกลางป่าใหญ่ “ดงอู่ผึ้ง”

กาลต่อมาสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ซึ่งเป็นพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ ชาวอุบลราชธานี ได้เปลี่ยนชื่อว่า “วัดมหาวัน” แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดป่าใหญ่” ครั้นต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2488 เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ได้เปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้งหนึ่งว่า “วัดมหาวนาราม” เป็นชื่อทางราชการมาตราบเท่าทุกวันนี้ แต่ชาวอุบลราชธานีก็ยังคงเรียกว่า “วัดป่าใหญ่” เหมือนเดิม

วัดมหาวนาราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้รับพระราชทานเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2521 นับเป็นพระอารามหลวงคณะมหานิกายแห่งแรกของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่ประดิษฐาน พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง องค์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นแหล่งการศึกษาพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี

วัดมหาวนาราม มีพระมหาราชครูศรีสัทธรรมวงศา เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และเป็นผู้สร้างพระพุทธรูปพระอินแปง หรือ พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ขนาดหน้าตักกว้าง 6 ศอก สูงจากเรือนแท่นถึงเปลวพระโมลี 10 ศอก สร้างลงรักปิดทองด้วยพุทธศิลปะที่งดงาม เพื่อเป็นองค์แทนสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า สร้างสำเร็จเมื่อวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 (เดือนเมษายน) มีการจัดงานเฉลิมฉลองพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เป็นประจำทุกปี

วัดสุปัฏนาราม-อุบล-01.jpg

วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ธรรมยุตนิกาย เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร

วัดสุปัฏนารามวรวิหาร เป็นวัดธรรมยุติวัดแรกของจังหวัดอุบลราชธานี จัดสร้างโดยพระราชศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เริ่มสร้างวัดเมื่อ พ.ศ.2396 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯพระราชทานนามว่า “วัดสุปัฎนาราม” อันหมายถึง วัดที่มีสถานที่ตั้งเหมาะสม เป็นท่าเรือที่ดี ตัววัดตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล มีภูมิทัศน์ที่ร่มรื่นสวยงาม

ต่อมาในสมัยรัชการที่ 7 เมื่อปี พ.ศ. 2478 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะของวัดขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิด “วรวิหาร” จึงมีนามเต็มว่า “วัดสุปัฏนารามวรวิหาร”

สิ่งสำคัญในวัดคือ พระอุโบสถ เป็นศิลปะผสมไทย-จีน-ยุโรป สถาปนิกผู้ออกแบบคือ หลวงสถิตย์นิมานกาล (ชวน สุปิยพันธุ์) นายช่างทางหลวงแผ่นดิน ลักษณะของพระอุโบสถแบ่งเป็นสามส่วน คือ ส่วนหลังคาเป็นศิลปะแบบไทย ส่วนกลางเป็นศิลปะตะวันตก และส่วนฐานเป็นศิลปะแบบขอม หน้าโบสถ์มีรูปสิงโตคล้ายของจริงสองตัว

พระสัพพัญญูเจ้า-วัดสุปัฏน์-อุบล-01.jpg

ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระประธานของวัด คือ พระสัพพัญญูเจ้า เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย  ขัดเงาไม่ปิดทองที่สง่างามมาก มีพุทธลักษณะสัดส่วนคล้ายกับ พระพุทธชินราช ที่จังหวัด พิษณุโลก จึงได้รับการขนานนามว่า พระพุทธชินราชแห่งอีสาน

นอกจากนี้ยังมีหอศิลปวัฒนธรรม เก็บรักษาโบราณวัตถุ เช่น เสมาหิน ศิลาจารึก ทับหลัง และพระแก้วขาวเพชรน้ำค้าง ซึ่งทำด้วยแก้วผนึกสีขาว เป็นพระในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้มาอย่างไรไม่ปรากฏชัด ในช่วงปี พ.ศ. 2485 เจ้าคุณพระคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) ได้ขึ้นมาจำพรรษาที่วัดสุปัฏนาราม ได้มอบพระแก้วขาวองค์นี้ ให้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของวัดสุปัฏนาราม และจะมีการอันเชิญพระแก้วขาวลงให้ สาธุฯ สรงน้ำขอพรปีใหม่สากล ในวันที่ 31 ธันวาคม - 2 มกราคม ของทุกปี

วัดศรีอุบลรัตนาราม-01.jpg

วัดศรีอุบลรัตนาราม ธรรมยุตนิกาย เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ

วัดศรีอุบลรัตนาราม เดิมชื่อ “วัดศรีทอง” เป็นวัดธรรมยุติกนิกาย สร้างเมื่อ พ.ศ.2398 รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) สถานที่ตั้งวัด เดิมเป็นสวนของท่านอุปฮาดโท (ต้นตระกูล ณ อุบล) ซึ่งท่านเป็นพระบิดาของพระอุบลเดชประชารักษ์ (เสือ ณ อุบล) ซึ่งเป็นกรมการเมืองอุบลราชธานี มีการกล่าวถวายที่ดินต่อหน้าพระเถระยกให้เป็นสมบัติในพระพุทธศาสนาเพื่อเป็นที่ตั้งวัด ในยามราตรีกาลของวันนั้น เกิดนิมิตประหลาดขึ้น คือ มีแสงสว่างพวยพุ่งขึ้นเป็นสีเหลืองทองภายในบริเวณสวนนั้น จึงได้ถือนิมิตมงคลนี้ตั้งชื่อ“วัดศรีทอง”

พระแก้วบุษราคัม-วัดศรีอุบลรัตนาราม-01.jpgวัดศรีอุบลรัตนาราม มีอุโบสถที่งดงาม รูปทรงถอดแบบจำลองมาจากพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร และในพิธีฉลองสมโภชฝังลูกนิมิตและยกช่อฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้กราบบังคมทูลเชิญ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จมาทรงประกอบพิธีดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2511 กับทั้งทูลถวายอุโบสถหลังนี้ให้อยู่ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้า ลูกเธอเจ้าฟ้าหญิงอุบล รัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และขอพระราชทานพระบรมราชาอนุญาตเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดศรีอุบลรัตนาราม” ได้รับพระราชทานยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2522

วัดศรีอุบลรัตนาราม มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนให้ความเคารพศรัทธาได้แก่ พระแก้วบุษราคัม เป็นพระพุทธรูปบูชาปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 3 นิ้ว สูงประมาณ 5 นิ้ว แกะสลักด้วยแก้วบุษราคัม (แก้วมณีสีเหลืองน้ำผึ้ง) ทึบทั้งแท่ง พระเศียรหุม้ด้วยพระศกทองคำทำเป็นเม็ดๆ มีพระสังวาลประดับที่องค์พระ มีฐานหุ้มด้วยทองคำ เป็นพระพุทธรูปโบราณนานนับพันปี ได้อัญเชิญมาจากกรุงศรีสัตนาคนหุต เวียงจันทน์ ประเทศลาว