ใครที่กำลังคิดจะซื้อตู้เย็นใหม่ แต่ยังเลือกไม่ได้สักทีว่าจะซื้อตู้เย็นแบบไหน ถึงจะจบทุกปัญหา ใช้งานไปได้แบบยาว ๆ วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับการเลือกซื้อตู้เย็นให้เหมาะกับการใช้งานของครอบครัว อยากรู้ไปอ่านกันเลย! 

1. เราใช้งานแค่ไหน
แม้ทุกบ้านจะมีตู้เย็น แต่ก็ใช่ว่าทุกบ้านจะใช้ตู้เย็นเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน เพราะอย่างบ้านคนโสด ที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้านสักเท่าไร ตู้เย็นก็อาจจะมีแต่น้ำเปล่า น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นหลังจากเหนื่อยจากการเดินทาง หรือสำหรับบางคนตู้เย็นก็เอาไว้เก็บเครื่องสำอางเสียอย่างนั้น แต่ในขณะที่คนชอบทำอาหาร ทำขนม ก็เต็มไปด้วยวัตถุดิบหลายอย่าง

ด้วยเหตุนี้ เราต้องมาพิจารณาว่า เราซื้อตู้เย็นเครื่องใหม่เพื่อเก็บอะไรกันแน่ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต จะได้เลือกได้ตรงกับความต้องการของเราจริง ๆ 

2. เลือกขนาดตามการใช้งาน
ไม่สำคัญว่าบ้านเราจะอยู่กันกี่คน แต่สำคัญว่าเราใช้งานตู้เย็นของเรามากน้อยแค่ไหน เพราะแม้ว่าอยู่คนเดียว แต่ชอบการทำอาหาร ตู้เย็นของเราก็จะเต็มไปด้วยของสดมากมายเต็มไปหมด เพราะเราจะมีเมนูต่าง ๆ มากมายที่อยากจะทำเต็มไปหมด เราก็ควรจะซื้อตู้เย็นที่ขนาดใหญ่หน่อย

ดังนั้น ให้เราลองคำนวณว่า เราต้องการพื้นที่ในการเก็บของในตู้เย็นมากมายแค่ไหน เพื่อที่เราจะได้เลือกขนาดของตู้เย็นได้ตรงใจ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ 

3. เลือกตามฟังก์ชันการใช้งาน
ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่หลายคนใช้ในการซื้อตู้เย็นคือฟังก์ชันการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการที่สามารถกดน้ำเย็นดื่มได้ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดตู้เย็น ช่องแช่ผัก ที่สามารถยืดอายุของผักไม่ให้เน่าเสียก่อนกำหนด หรือช่องแช่เนื้อสัตว์ที่สามารถหยิบมาใช้งานได้เลย ไม่ต้องรอละลาย

นอกจากนี้บางคนก็ชอบให้ช่องฟรีซอยู่ด้านล่าง มากกว่าด้านบน หรือการจัดเรียงพื้นที่ที่ใช้ในการจัดเก็บต่าง ๆ 

4. คุณภาพและการรับประกัน
แต่ที่พูดมาก่อนหน้านี้จะดีแค่ไหน แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อตู้เย็นก็คือ คุณภาพ ความทนทาน และการรับประกัน เราควรเลือกซื้อตู้เย็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และมีการรับประกันที่ยาวนาน หากว่าตู้เย็นเสีย หรือว่ามีปัญหาก็สามารถส่งซ่อมได้รวดเร็ว มีบริการซ่อมถึงบ้านก็ยิ่งดี ทำให้เราสามารถมั่นใจในคุณภาพ ว่าจะสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน 

การเลือกซื้อตู้เย็นแต่ละครั้ง เราจะต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน เพราะซื้อตู้เย็นหนึ่งตู้ เราก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน บางครั้งนานกว่า 10 ปีเลยทีเดียว