จำคุกอธิการบดี ม.อุบลฯ 1 ปี 4 เดือน ปรับหมื่นสอง รอลงอาญา 2 ปี
วันที่ 3 กันยายน 2557 ศาลจังหวัดอุบลราชธานี มีคำพิพากษาลงโทษ รศ.นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือนปรับ 12,000 บาท โทษจำรอลงอาญา 2 ปี ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โดยคดีนี้ รศ.ธาดา สุทธิธรรม อดีตคณบดีคณะศิลปประยุกต์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง รศ.นงนิตย์ ธีระวัฒนสุข อธิการบดี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
โจทย์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2554 จำเลยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้มีคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับโจทก์ กรณีกล่าวหาว่าโจทก์ดำรงตำแหน่งคณบดี คณะศิลปประยุกต์และการออกแบบ มีพฤติการณ์ทุจริตประพฤติมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และในวันที่ 22 ธันวาคม 2554 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้มีคำสั่งลงโทษไล่โจทก์ออกจากราชการ
ต่อมาโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งลงโทษต่อคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบัน อุดมศึกษา (ก.พ.อ.) และต่อมาคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับอุทธรณ์ร้องทุกข์และจรรยาบรรณ ทำหน้าที่แทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ได้พิจารณาแล้วให้เพิกถอนคำสั่งลงโทษโจทก์ และแจ้งให้จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์กลับเข้ารับราชการตามคำสั่งของคณะกรรมการ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง เสียโอกาสในการได้รับความดี ความชอบและความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยในฐานะอธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ของโจทก์ ที่เป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยและมีคำสั่งลงโทษโจทก์ จากนั้นโจทก์อุทธรณ์คำสั่งลงโทษต่อคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดม ศึกษา (ก.พ.อ.) ซึ่งได้พิจารณาแล้วมีมติให้เพิกถอนคำสั่งไล่โจทก์ออกจากราชการและสั่งให้ โจทก์กลับเข้ารับราชการ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องดำเนินการแก้ไขคำสั่งลงโทษ ให้เป็นไปตามมติดังกล่าวโดยเร็ว
การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จึงเชื่อว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือนปรับ 12,000 บาทโทษจำรอลงอาญา 2 ปี
ขอบคุณข่าวจาก breakingnews.nationtv.tv