โควิดพ่นพิษ ก่อสร้างแยกดงอู่ผึ้ง-วนารมย์ กระทบล่าช้า 10%
วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 นายเอกพงศ์ เศรษฐมานพ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอุบลราชธานีที่ 1 เปิดเผยความคืบหน้ากรณีโครงการทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 231 กับทางหลวงหมายเลข 23 (แยกดงอู่ผึ้ง) พร้อมทางคู่ขนาน ระหว่าง กม.0+100-กม.4+160 ระยะทาง 4.06 กิโลเมตร (กม.) หรือทางลอดสี่แยกดงอู่ผึ้ง-วนารมย์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ว่าโครงการดังกล่าว ถือเป็นโครงการก่อสร้างที่ขึ้นตรงกับสำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง มีการควบคุมการก่อสร้างจากกรมทางหลวง (ส่วนกลาง) โดยรับมอบพื้นที่จากแขวงฯ อุบลราชธานีที่ 1
ในการก่อสร้าง ล่าสุดความก้าวหน้าของโครงการ ในส่วนของผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมา ได้ทำการเร่งรัดการก่อสร้างอย่างเต็มที่ แม้ว่าที่ผ่านมาจะประสบปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างหลายประการ ทั้งการเริ่มโครงการก่อสร้างที่ล่าช้า อันเนื่องจากการเคลื่อนย้ายสาธารณูปโภคพื้นฐาน (ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์) ล่าช้าไปนาน 8 เดือน กว่าที่ผู้รับเหมาจะเข้าดำเนินงานก่อสร้างได้เต็มรูปแบบ ซึ่งกรณีดังกล่าวต่างเป็นที่ทราบกันดีของทุกฝ่าย
รวมทั้งเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งก็เป็นหนึ่งในผลกระทบโครงการก่อสร้างด้วย เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนคนงานเพราะถูกกักตัวยกหมู่บ้าน ส่งผลให้การดำเนินงานหยุดชะงัก โดยเฉพาะในช่วงการระบาดในปี 2563 และมาจนถึงการแพร่ระบาดของโควิดในปี 2564 ซึ่งก็ทราบว่าส่งผลกระทบกับคนงานก่อสร้างพอสมควร และยังไม่นับรวมถึงอุปสรรคในช่วงฤดูฝนที่มีพายุเข้าตามฤดูกาล ซึ่งส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างให้หยุดชะงัก
แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันความก้าวหน้าของโครงการฯ ก็ได้ก้าวหน้าไปกว่า 57.6% แล้ว แม้จะช้ากว่าแผนงานเดิมที่วางไว้ประมาณ 10% แต่ก็ได้เร่งรัดการทำงานโดยผู้รับเหมาจะเพิ่มเครื่องจักรและเพิ่มชุดทำงานเพื่อให้ความก้าวหน้าของงานเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งแขวงฯ และผู้รับเหมาต่างได้ร่วมกันเร่งรัดโดยมีการประชุมติดตามความคืบหน้าของงานทุกสัปดาห์
และขณะนี้การก่อสร้างอยู่ในขั้นตอนของการสร้างทางลอด ภายหลังจากที่ผ่านมาได้ดำเนินการก่อสร้างงานถนนด้านข้างแล้วเสร็จ โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จตามกำหนดเมษายน 2565 หรือหากไม่ทันตามกำหนดจริงทางกรมทางหลวงจะมีการพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏอีกครั้งหนึ่ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยการบริหารจัดการด้านการจราจรที่ทางโครงการฯ ได้จัดการในเส้นทางสัญจรไว้ทั้งในรอบวงเวียนที่ทำการก่อสร้าง ตลอดจนทางเลี่ยงต่างๆ เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรในระหว่างการก่อสร้าง พบว่าลดปัญหาด้านการจราจรในช่วงระหว่างการก่อสร้างได้มากพอสมควร อีกทั้งยังพบว่ามีปัญหาประชาชนที่สัญจรไปมาบริเวณสี่แยกดังกล่าว ประสบอุบัติเหตุระหว่างการสัญจรน้อยมาก
ดังนั้น จึงอยากให้ประชาชนมั่นใจว่าแขวงฯ ได้ติดตามความก้าวหน้าของการทำงานผู้รับเหมาอย่างใกล้ชิด และให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะได้สี่แยกทั้งสองแห่งที่ได้มาตรฐานให้กับประชาชนสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกสบายในอนาคต นายเอกพงศ์ กล่าว