สสจ.อุบลฯ เตือนประชาชนถึงอันตรายจากการรับประทานเห็ดพิษ
นายแพทย์สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2558 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับรายงานผู้ป่วยจากการรับประทานเห็ดพิษ (โรค Mushroom poisoning) จำนวน 183 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 9.92 ต่อแสนประชากร โดยพบผู้ป่วยในเขตเทศบาล 4 ราย ในเขตองค์การบริหารตำบล 179 ราย มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต 2 ราย ที่ อ.ศรีเมืองใหม่และ อ.นาจะหลวย กลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือกลุ่มอายุ 35 - 44 ปี จำนวนผู้ป่วย 46 ราย
เฉพาะในเดือนสิงหาคม จังหวัดอุบลราชธานีพบผู้ป่วย 40 ราย ส่วนอำเภอที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุดคือ อำเภอสำโรง รองลงมาคือ อำเภอตระการพืชผล, อำเภอบุณฑริก ไม่มีรายงาน ผู้เสียชีวิต
และพบว่า เห็ดป่าในภาคอีสานที่เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้บ่อยได้แก่ เห็ดกลุ่มอะแมนนิต้า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเห็ดระโงกหิน เห็ดไข่ห่าน เห็ดไข่เหลือง เห็ดระงาก เห็ดขี้ควาย ขี้ไก่เดือน เห็ดไข่ตายซาก แม้ปรุงอาหารมีรสอร่อย แต่เป็นพิษร้ายแรงมาก
พิษของเห็ดเหล่านี้ เป็นพิษที่ไม่สามารถละลายในน้ำ และไม่สลายในความร้อน ดังนั้นเมื่อรับประทานเห็ดชนิดนี้เข้าไป จะเป็นการรับพิษโดยตรง หลังจากรับประทานไปภายใน 6 – 12 ชั่วโมง จะทำให้มีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ต่อจากนั้นอาการจะทุเลาลงระยะหนึ่ง และจะพัฒนาไปสู่การทำลายตับและอวัยวะอื่น ๆ ทำให้เกิดอาการตัวเหลือง ตาเหลือง การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ รุนแรงและเสียชีวิตได้ ภายใน 6 – 12 วัน
จากกรณีดังกล่าว จึงขอเตือนประชาชน ขอให้ระมัดระวังในการเลือกรับประทานเห็ด ถ้าไม่แน่ใจว่ามีพิษหรือไม่ หรือเป็นเห็ดที่ไม่เคยรับประทาน ก็ไม่ควรนำมาปรุงอาหาร และหากต้องการนำเห็ดมาประกอบอาหารควรปฏิบัติดังนี้
1. ควรจะรับประทานแต่พอควร อย่ารับประทานจนอิ่มมากเกินไป เพราะเห็ดเป็นอาหารที่ย่อยยาก อาจจะทำให้ผู้มีระบบย่อยอาหารไม่ดีเกิดอาการอาหารเป็นพิษได้
2. อย่ารับประทานอาหารที่ปรุงขึ้นสุก ๆ ดิบ หรือเห็ดดิบดอง เพราะเห็ดบางชนิดยังจะมีพิษอย่างอ่อนเหลืออยู่ ผู้รับประทานจะไม่รู้สึกตัวว่ามีพิษ จนเมื่อรับประทานหลายครั้งก็สะสมพิษมากขึ้น และเป็นพิษร้ายแรงถึงกับเสียชีวิตได้ในภายหลัง
3. ผู้ที่รู้ตัวเองว่าเป็นโรคภูมิแพ้เกี่ยวกับเห็ดบางชนิด หรือกับเห็ดทั้งหมด ซึ่งถ้ารับประทานเห็ดเข้าไปแล้ว จะทำให้เกิดอาการเบื่อเมา หรืออาหารเป็นพิษ จึงควรระมัดระวัง รับประทานเฉพาะเห็ดที่รับประทานได้โดยไม่แพ้ หรือหลีกเลี่ยงจากการรับประทานเห็ด
4. อย่ารับประทานเห็ดพร้อมกับดื่มสุรา เพราะเห็ดบางชนิดจะเกิดพิษทันที ถ้าหากดื่มสุราหลังจากรับประทานเห็ดแล้วภายใน 48 ชั่วโมง สุราจะเป็นตัวช่วยให้พิษกระจายได้รวดเร็ว
การช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้น หากรับประทานเห็ดแล้วมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียให้รีบทำให้ผู้ป่วยอาเจียนออกมาให้หมด ด้วยการล้วงคอหรือกรอกไข่ขาวดิบ ไม่ควรซื้อยากินเองหรือรักษาแบบพื้นบ้าน แล้วรีบส่งพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการรับประทานเห็ดทั้งชนิดและประมาณโดยละเอียด พร้อมนำตัวอย่างเห็ดมาด้วย (หากยังเหลือ)