นศ.สาว เรียกแท็กซี่หน้า รพ. ถูกพาออกนอกเส้นทาง ฮึดสู้จนรอด
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2557 เวลาประมาณ 22.30น. เกิดเหตุ นักศึกษาสาวออกจากบ้านไปหาหมอที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หลังจากหาหมอเสร็จแล้วจำเป็นต้องกลับคนเดียว พบแท็กซี่มาส่งผู้โดยสารหน้า รพ. เลยเรียกต่อ หลังจากขึ้นรถแล้วแม็กซี่ส่อออกลายทรชน พาออกนอกเส้นทาง พอถามก็บอก‘เดี๋ยวไปส่ง’สุดท้ายตัดสินใจเปิดประตู กระโดดพุ่งออกนอกรถแล้วหนีไปหลบในป่า ก่อนโทร.เรียกตร.ไปช่วย
ทีมข่าวภูมิภาค ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 30 ส.ค.57 พ.ต.ท.กิตติชนม์ จันยะรมน์ สวป.สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 อุบลราชธานี ว่ามีหญิงสาวโทรศัพท์ร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากที่หลบหนีลงจากรถแท็กซี่ ตอนนี้หลบอยู่ในป่าใกล้หมู่บ้านสาริน ถนนอุบล-ตระการ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรุดไปตรวจสอบยังจุดที่หญิงสาวดัง กล่าวหลบซ่อนตัวอยู่ พบ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยในอุบลราชธานี วิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากป่าข้างทางเพื่อความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สอบถาม น.ส.เอ เล่าว่า เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ตนเองรู้สึกไม่สบาย จึงได้ให้เพื่อนมาส่งพบแพทย์ตรวจรักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี หลังจากพบแพทย์แล้วจึงได้แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยตนเรียกรถแท็กซี่ ที่ขับมาส่งผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าห้องฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลฯ เพื่อจะกลับบ้านในซอยชยางกูร 42 ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี
นักศึกษาสาวที่หวิดตกเป็นเหยื่อภัยสังคม กล่าวต่อว่า เมื่อขึ้นรถได้ คนขับแท็กซี่ได้ขับพาตนออกมาทางตลาดบ้านดู่ แล้วเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางถนนอุบล-ตระการ ตนจึงได้ทักท้วงไปว่าทำไมไม่เลี้ยวซ้ายเข้าทางเส้น ถนนชยางกูร วิ่งเข้ากลางเมือง เนื่องจากใกล้กว่า คนขับแท็กซี่บอกเพียงว่า "เดี๋ยวไปส่ง " เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงได้ขอให้จอดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแต่คนขับก็ไม่จอด ตนพยายามที่จะโทรศัพท์แจ้งเพื่อนว่าเกิดเหตุร้ายแต่แบตเตอรี่โทรศัพท์ถือก็ หมด โทร.ไม่ได้ พยายามจะเปิดประตูรถเพื่อหลบหนีแต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ เพราะคนขับกดเซ็นทรัลล็อกไว้ พร้อมกับใช้มือซ้ายเอื้อมมาดึงเสื้อตนไว้เพื่อไม่ให้หลบหนี ส่วนอีกมือก็จับพวงมาลัยรถขับไปเรื่อยๆ
น.ส.เอ เล่านาทีระทึกขวัญ ว่า สุดท้ายได้ตัดสินใจลุกจากเบาะหลังก้าวข้ามไปหาคนขับ เพื่อที่จะเปิดประตูด้านข้างคนขับ ระหว่างที่ข้ามไปนั้นได้ใช้เท้าเหยียบบนต้นขาของคนขับไว้ จนรถชะลอความเร็วลง แต่คนขับยังใช้มือดึงคอเสื้อของตนเอาไว้ แต่ไม่สามารถที่จะลุกขึ้นได้เนื่องจากถูกตนเหยียบที่ต้นขาอยู่ เมื่อเห็นว่ารถชะลอความเร็วลงจึงตัดสินใจเปิดประตูกระโดดลงจากรถแล้ววิ่ง เข้าไปหลบในป่าข้างทาง แล้วพยายามเปิดโทรศัพท์อีกครั้งจนสามารถโทร.หาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความ ช่วยเหลือดังกล่าว ขณะที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บฟกช้ำเพียงเล็กน้อย โชคดีที่ตอนกระโดดลงจากรถ ไม่มีรถขับตามหลังมา ไม่งั้นอาจถูกเหยียบหรือพุ่งชนจนบาดเจ็บสาหัสได้
หญิงสาวเล่าอีกว่า รถแท็กซี่ที่ตนขึ้นนั้น เป็นรถแท็กซี่ สีน้ำเงิน-เหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หมายเลขรถ คนขับเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี ผมสั้น มีกลิ่นบุหรี่ตลบภายในรถ ไม่สวมเครื่องแบบของพนักงานขับรถแท็กซี่ สวมยืดสีขาวลายขวาง ขับรถมาส่งผู้โดยสาร 3 คน คาดว่าจะเป็น ตา ยาย พาหลาน อายุประมาณ 1 -2 ขวบ มาหาหมอที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งเป็นจังหวะที่ตนออกมาพอดี จึงได้เรียกเพื่อโดยสารต่อ โดยไม่ได้โทรศัพท์เข้าศูนย์แท็กซี่
ต่อมา พ.ต.ท.กิตต์ชนม์ จันยะรมย์ สวป.ได้พาผู้เสียหายไปที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ธีรเจต ต่อน้อย พนักงานสอบสวนก่อนขยายผลให้ตำรวจชุดสืบสวนตามหาตัวคนร้าย โดยเบื้องต้นได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากโรงพยาบาล และเส้นทางที่รถผ่านคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีในเร็ววันนี้
ขอบคุณข่าวจาก นสพ.ไทยรัฐออนไลน์