นับเป็นอีกครั้งหนึ่งของการจัดงาน บุญมหากฐิน ถิ่นนักปราชญ์  ประจำปี 2564  ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 17 โดยทอดถวาย ณ วัดไม่มีเจ้าภาพจองกฐิน 18 วัด ในจังหวัดอุบลราชธานี ระหว่าง วันที่ 5-19 พฤศจิกายน 2564 

การจัดงานบุญมหากฐิน ถิ่นนักปราชญ์ จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 ด้วยเป็นจังหวัดที่มีวัดตั้งเคียงคู่อยู่ในแต่ละชุมชน และมีวัดจำนวนมากที่ไม่มีเจ้าภาพจองกฐินในแต่ละปี จึงรวบรวมผู้มีจิตศรัทธาในจังหวัดอุบลราชธานี และทั่วประเทศ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งในปี 2564 กำหนดทอดกฐินทั้งสิ้น 18 วัด และเดินสายทอดกฐินตามวัดต่างๆ ไปจนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 

จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับขนานนามว่า “เมืองนักปราชญ์” มาแต่โบราณจนถึงทุกวันนี้ นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ จึงต้องการส่งเสริมให้รักษาประเพณีและความเป็นเมืองนักปราชญ์ให้คงอยู่ ด้วยการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองพร้อมกับความเจริญด้านอื่นๆ เพราะศาสนาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ ซึ่งคณะเจ้าภาพหลักผู้สนับสนุนเป็นประจำทุกปี  สำหรับปีนี้ลงพื้นที่อำเภอเขมราฐ ทอดกฐิน ไปแล้ว 3 วัด ได้แก่

วัดเถาวัลยิกาวาส หมูที่ 6 บ้านดอนแสนพัน ตำบลเจียด อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ยอดเงินรวมทั้งสิ้น จำนวน 309,999 บาท 

วัดสว่างอารมณ์ บ้านนาขนัน หมู่ที่ 5 ตำบลแก้งเหนือ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ยอดเงินรวมทั้งสิ้น จำนวน 549,536 บาท 

วัดโพธิ์เมืองวนาราม หมู่ที่ 9 บ้านโพธิ์เมือง ตำบลนาแวง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ยอดเงินรวมทั้งสิ้น จำนวน 317,907 บาท 

นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ กล่าว่าสำหรับปีนี้การจัดงานบุญมหากฐิน ถิ่นนักปราชญ์ ครั้งที่ 17 กำหนดการทอดกฐินจะมีขึ้นในระหว่าง วันที่ 5 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 19 พฤศจิกายน 2564  สำหรับวัตถุประสงค์อีกอย่างหนึ่งของการจัดงาน บุญมหากฐิน ถิ่นนักปราชญ์ คือเพื่อทอดกฐินในวัดที่ไม่มีผู้เป็นเจ้าภาพจองกฐิน หรือที่เรียกว่า ‘กฐินหลง’ ทอด 18 วัด ซึ่ง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นเมืองที่มีวัดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากสมัยก่อนไม่มีโรงเรียนเหมือนสมัยนี้ ผู้คนที่ต้องการศึกษาหาความรู้จึงต้องไปเรียนรู้ตามวัดต่างๆ อีกทั้งอุบลราชธานี เป็นหัวเมืองใหญ่ จึงเป็นแหล่งผลิตผู้มีความรู้เป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จังหวัดอุบลราชธานี ได้ถูกขนานนามว่าเป็น ‘เมืองนักปราชญ์’