พบผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่ รายแรกในอุบล
วันที่ 25 ธันวาคม 2563 นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมนายแพทย์สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด เปิดแถลงข่าวการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ระลอกใหม่ นับเป็นคนแรกของจังหวัดอุบลราชธานี จบสถิติ 211 วัน จังหวัดอุบลราชธานีไม่พบผู้ป่วยโควิด-19
โดยผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่ คนแรกของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นชายไทย อายุ 47 ปี มีอาชีพเป็นพ่อค้ารถเร่ ขายอาหารทะเล มีประวัติไปซื้ออาหารทะเลที่ตลาดทะเลไทย /ตลาดผัก จ.สมุทรสาคร และตลาดไท คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 จากนั้นรถเกิดอุบัติเหตุที่ จ.นครราชสีมา จึงขนถ่ายสินค้าขึ้นรถน้องสาว และเข้าพักที่บ้านน้องสาว อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา
วันที่ 18-20 ขับรถเร่ขายของที่ จ.ขอนแก่น และ จ.นครราชสีมา
วันที่ 21 ธันวาคม 2563 ขับรถไปส่งภรรยาและลูกกลับอุบลฯ ที่ บขส.แห่งที่ 2 นครราชสีมา ขึ้นรถทัวร์บริษัทแมกไม้ร่มรื่น นครราชสีมา-อุบลราชธานี
วันที่ 22 ธันวาคม 2563 มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว เจ็บหน้าอก อุณหภูมิ 36.0 องศา ลูกสาวแนะนำให้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมาจากพื้นที่เสี่ยง จึงไปโรงพยาบาลขามทะเลสอ แพทย์เอ็ปซ์เรย์ปอด แล้วจ่ายยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวด
วันที่ 23 ธันวาคม 2563 เดินทางกลับอุบลราชธานี โดยรถทัวร์บริษัทแมกไม้ร่มรื่น นครราชสีมา-อุบลราชธานี เที่ยวเวลา 13.00-21.00 น. สวมหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง เมื่อถึงอุบลฯ ภรรยามารับกลับหอพักชายทุ่ง ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ อุบลราชธานี โดยรถจักรยานยนต์
วันที่ 24 ธันวาคม 2563 ขับรถจากที่พัก หอพักชายทุ่ง ไปโรงพยาบาลวารินชำราบ เพื่อขอตรวจคัดกรองโควิด-19 ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ รพ.ขามทะเลสอ เวลา 23.00 น. ผลการตรวจ พบเชื้อ COVID-19 ถือเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่ รายแรกในจังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้กำลังรักษา อาการไม่รุนแรง
สำหรับบุตรของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ศึกษาที่โรงเรียนเทศบาลวารินวิชาชาติ ชั้น ป.3/2 ทางหน่วยควบคุมโรคฯ ได้ทำการสอบสวนโรคและตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมกับมารดาแล้ว จะทราบผลในวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2563
ด้านหอพักชายทุ่ง ที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 พักอาศัยนั้น มีข้อมูลว่า มีผู้ป่วยและผู้พักร่วมหอพักรวม 59 คน เป็นชาวไทย 7 คน ชาวพม่า 51 คน และชาวมอญ 1 คน ขณะนี้ห้ามคนในออกคนนอกเข้าแล้ว และกรมอนามัยควบคุมโรคจะลงพื้นที่ต่อไป