ปิดพื้นที่ บ้านช่างหม้อ อ.วารินชำราบ ควบคุมโควิด-19
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ออกคำสั่งจังหวัดอุบลราชธานี ระงับการเข้า-ออกพื้นที่ บ้านช่างหม้อ หมู่ที่ 5 ตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ 13-26 พฤศจิกายน 2564
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน พบผู้ติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ในพื้นที่บ้านช่างหม้อ หมู่ที่ 5 ตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และมีผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคไปสู่พื้นที่อื่นๆ จึงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดและเร่งด่วน สำหรับพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร์โรค เพื่อป้องกันและระงับยับยั้งการระบาดของโรค มิให้แพร่ระบาดออกไปในวงกว้างและเพื่อให้การควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอุบลราชธานี มีมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 กำหนดมาตรการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่บ้านช่างหม้อ หมู่ที่ 5 ตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ดังนี้
1. ห้ามออกนอกพื้นที่บ้านช่างหม้อ หมู่ที่ 5 ตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เว้นแต่มีเหตุจำเป็น และได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุข
2. ห้ามออกนอกเคหสถาน เวลา 21.00-04.00 น. เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุข
3. งดการชุมนุมที่สาธารณะหรือนอกเคหสถาน ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
4. งดจัดกิจกรรมทุกประเภท ยกเว้น งานศพ โดยต้องขออนุญาตต่อศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) ในพื้นที่
5. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ในร้านอาหารทั่วไป ร้านข้าวต้ม รถเข็น และแผงลอย งดนั่งรับประทานในร้าน แต่ให้ซื้อกลับไปบริโภคที่บ้าน
6. งดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่
7. ผู้มีเหตุอันควรสงสัยว่าติดเชื้อ ให้กักตัวอยู่ในเคหสถาน เป็นระยะเวลา 14 วัน และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุขอย่างเครงครัด
ขอความร่วมมือบุคคลภายนอก งดเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น เว้นแต่มีเหตุจำเป็น และได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุข และให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตเข้า-ออก พื้นที่ดังกล่าวข้างต้น จัดทำข้อมูลการเดินทางของตนเองให้ชัดเจน โดยลงทะเบียนผ่านทางแอพพิเคชัน หรือวิธีการอื่นใดที่ทางราชการกำหนด หรือเป็นการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง