เศร้า...บัณฑิตเกียรตินิยม ม.อุบลฯ ไร้พ่อขาดแม่ในวันสำเร็จการศึกษา
ท่ามกลางความชื่นมื่นของเหล่าบัณฑิตและญาติๆ ที่มาร่วมยินดีในความสำเร็จกับบัณฑิตใหม่ “กันเกรา ช่อที่ 25” แห่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ปีการศึกษา 2558 เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ครั้งนี้ ยังมีอีกมุมของบัณฑิตที่ชีวิตผกผัน “ร้อยตรีหญิงรัตนวรรณ ยังเฟื่องมน” หรือ “ตอง” บัณฑิตคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
จากชีวิตที่เคยมีสมบูรณ์ทุกอย่าง ความสุขจากครอบครัวอบอุ่นพ่อแม่ลูก มาถึงวันนี้วันแห่งความสำเร็จอีกก้าวของเธอ กับความภาคภูมิใจ บัณฑิตเกียรตินิยม อันดับ 1 แต่กลับไร้แม้เงาซึ่งพ่อกับแม่มาร่วมยินดีกับลูกสาวคนเดียว ได้แต่มองดูเพื่อนรอบข้างที่จบถ่ายภาพพร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่ภาพที่ทุกคนเห็นถึงกับน้ำตาซึม นั่นคือ บัณฑิตรัตนวรรณ ยังเฟื่องมน มือถือปริญญาบัตรแนบกลางตัว ภาพถ่ายของสองพ่อแม่อยู่เคียงข้างใบปริญญาบัตร ด้านซ้ายและขวา เป็นภาพที่ตราตรึงในใจของหลายคนยิ่ง
“ร้อยตรีหญิงรัตนวรรณ ยังเฟื่องมน”หรือ “ตอง” เล่าว่า ตนเป็นคนภูมิลำเนาที่กรุงเทพมหานคร ภายหลังจากที่เรียนมัธยมปลาย พ่อซึ่งรับราชการทหาร ท่านป่วยเป็นโรคมะเร็ง ได้มีโอกาสดูแลปรนนิบัติท่านจากที่ท่านอยู่ได้เพียง 3 เดือน ท่านสามารถอยู่ได้กว่า 3 ปี พ่อเสียชีวิตตอนตนเรียน ม.5 จึงต้องอยู่กับแม่เพียง 2 คน ตนคิดว่า พ่อใช้แพทย์ทางเลือกในการรักษา ทำให้ตนมีความฝันอยากเป็นเภสัชกร อยากรู้จักสมุนไพร อยากคิดค้นยาได้ จากนั้นตนได้มุ่งมั่นมาเรียนที่คณะเภสัชศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งนับว่าเป็นการออกจากอ้อมกอดแม่ครั้งแรกของชีวิต ที่ยากมากในทำใจ แต่แม่ต้องการสอนให้เราสามารถยืนอยู่ในสังคมได้อย่างเข้มแข็ง อดทนเหมือนกับพ่อ ตนจึงมาเรียนและชอบความเป็นอีสาน วัฒนธรรม มิตรภาพที่ดีของเพื่อน ที่สอนให้ตนเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตหลากหลาย แต่การเรียนตนก็มุ่งมั่นโดยมีแม่เป็นกำลังใจให้กันมาโดยตลอด
ในช่วงของการใช้ชีวิตในมหาลัย ตนได้ทำกิจกรรมนักศึกษาในหน้าที่ต่างๆ ทำกิจกรรมกับเพื่อนในคณะและต่างคณะ ตลอดจนมหาวิทยาลัยต่างๆ จนได้รับการยอมรับจากเพื่อนให้ทำหน้าที่ ในตำแหน่งอุปนายก สโมสนนักศึกษา ในปี 2555 และดำรงตำแหน่งนายกสโมสรนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ ในปี 2556 ซึ่งการทำกิจกรรมต่างๆ คุณแม่ก็มาช่วยสนับสนุนมาโดยตลอดอีกด้วย แม่จึงเป็นที่รักของเพื่อนๆทุกคนด้วย
ในที่สุดความฝันสู่ความสำเร็จของชีวิตก็มาถึง นั่นคือระยะเวลาอีกเพียง 3 เดือน ก็จะสำเร็จการศึกษา ปีที่ 6 แล้ว แต่ทุกอย่างไม่เป็นดั่งที่คิด ในขณะที่ตนกำลังฝึกงานที่กรุงเทพฯ มีโทรศัพท์ของแม่โทรเข้ามา แต่เป็นเสียงผู้ชายพูด ตนได้แต่นึกในใจว่าแม่คงทำโทรศัพท์หล่นหายคนเก็บได้ สิ่งที่เขาบอกมาว่า ตอนนี้เจ้าของโทรศัพท์ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว ดั่งสายฟ้าฟาดลงกลางใจทำอะไรไม่ถูก เคล้งคว้าง ชีวิตว่างเปล่าไร้เป้าหมายในการก้าวเดิน แต่ตนยังโชคดีที่มีเพื่อนๆทุกคนให้กำลังใจ ให้เข้มแข็งผ่านเหตุการนี้ไปให้ได้ ทุกสิ่งต้องผ่านไปให้ได้ ซึ่งตอนนั้นต้องเตรียมสอบใบประกอบวิชาชีพ แม้ตนจะสามารถสอบผ่านแต่ก็ไม่ทันที่แม่จะรับรู้
มีสิ่งหนึ่งที่ตนทำให้แม่ภูมิใจก่อนท่านเสียชีวิต คือตนสอบบรรจุเข้ารับราชการทหาร เป็นเภสัชกร ประจำโรงพยาบาลอานันทมหิดล จ.ลพบุรี เป็นอาชีพเหมือนพ่อ ที่แม่อยากให้ทำ และตนก็ชอบมาตั้งแต่เด็กด้วย ยังจำคำที่แม่พูดและบอกกับเพื่อนๆ ของแม่ทุกคนได้ว่า ช่วงเดือนธันวาคมปลายปี ให้ทุกคนมางานรับปริญญาลูกสาว แม่ตัดผ้าไหมสีเหลืองทองมางานนี้โดยตรง แต่หารู้ไม่ว่าเพื่อของแม่ทุกคนมา แต่มีเพียงแม่ที่ไม่ได้มาในครั้งนี้
แม้วันนี้ลูกไม่รู้ว่าพ่อกับแม่อยู่ที่ไหน แต่อยากให้ท่านได้รับรู้ว่าวันนี้ลูกสาวคนนี้ทำสำเร็จแล้ว นำใบปริญญาบัตร และบัณฑิตเกียรตินิยมมาให้แม่ชื่นชม และจะรำลึกถึงพ่อกับแม่คนบนฟ้าตลอดไป สร้างชีวิตและก้าวเดินต่อไปให้จงได้ “ตอง” รัตนวรรณ ยังเฟื่องมน กล่าวด้วยน้ำเสียงเครือที่มีน้ำใสในตาไหลซึมออกมา
นับว่าเป็นอีกแบบอย่างที่ดีของความเข้มแข็ง การก้าวเดินในชีวิตที่ยากที่หลายคนจะทำใจได้ แต่ บัณฑิตตอง รัตนวรรณ ยังเฟื่องมน ก็สามารถฟันฝ่าปัญหานั้นผ่านมามาได้ รับพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนี้ แม้ภาพที่หลายๆคนมองแล้วสะเทือนใจ แต่แท้ที่จริงพ่อกับแม่ของเธอไม่ได้ห่างหายไปไหน เพราะพ่อกับแม่อยู่ในใจของลูกคนนี้ตลอดไป อีกหนึ่งความภาคภูมิใจบัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี บัณฑิตกตัญญู สู้ชีวิต “ร้อยตรีหญิงรัตนวรรณ ยังเฟื่องมน”
เพลิน วิชัยวงศ์ นักประชาสัมพันธ์ ม.อุบลฯ / ข่าว