รพ.สรรพสิทธิฯ อุบล เตือนระวังอุบัติเหตุประทัดและดอกไม้ไฟ ช่วงออกพรรษา
รพ.สรรพสิทธิประสงค์ เตือนระวังอุบัติเหตุประทัดและดอกไม้ไฟ ช่วงออกพรรษา อาการบาดเจ็บมีตั้งแต่เล็กน้อย จนถึงตาบอด และเสียชีวิตได้ แนะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเปล่าดีที่สุด อย่าทาหรือป้ายด้วยสิ่งอื่น เช่น ยาสีฟัน เกลือ น้ำหมาก ฯลฯ จะยากต่อการรักษา และอาจทำให้แผลติดเชื้อได้
นพ.มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านบริการปฐมภูมิ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า ในช่วงของเทศกาลออกพรรษาของทุกปี จะมีผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุประทัดและดอกไม้ไฟระเบิด มาเข้ารับการรักษาที่หอผู้ป่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวก (Burn Unit) รพ.สรรพสิทธิประสงค์เป็นจำนวนมาก
จากสถิติการรับรักษาปี 2556 ที่ผ่านมา เฉพาะในเขตพื้นที่บริการของโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย 5 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และมุกดาหาร ในระหว่างเดือนกรกฎาคม - ตุลาคม 2556 มีผู้ป่วยมารับการรักษาจำนวนสูงถึง 36 คน แบ่งเป็นเพศชาย 27คน และเพศหญิง 9คน อายุต่ำสุดเพียง 5 ปี สูงสุด 64 ปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลออกพรรษา มียอดผู้ป่วยสูงขึ้นเกือบเท่าตัว
ผู้ป่วยจะมีอาการบาดเจ็บอยู่ในระดับรุนแรง บางรายสูญเสียอวัยวะหรือกระทั่งเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีการบาดเจ็บอย่างอื่นร่วม เช่น ตาบอด แผลไฟไหม้ตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้า ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้จะพักรักษาตัวเป็นเวลานาน ต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด เมื่อรักษาแผลที่เกิดขึ้นหายแล้วบางรายอาจจะเป็นคนพิการเนื่องจากสูญเสียอวัยวะ
สำหรับวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นของผู้ป่วยกลุ่มนี้ อันดับแรกคือ ต้องระงับเหตุที่เกิดกับตัวผู้ป่วย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความร้อน ดังนั้น น้ำสะอาดจึงถือเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด หลังจากนั้นควรรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านทันทีโดยเร็วที่สุด เนื่องจากผิวหนังของผู้ป่วยถูกทำลายหรือฉีกขาด ซึ่งจะทำให้เชื้อโรคจะสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และไม่ควรนำสิ่งแปลกปลอมทาที่บริเวณแผลของผู้ป่วยโดยเด็ดขาด เช่น ยาสีฟัน เกลือ น้ำหมาก เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคต่อการทำแผลให้ผู้ป่วยและเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ