ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ วัดมหาวนาราม วันที่ 30 เม.ย.65 นี้
วันที่ 7 เมษายน 2565 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินยังจังหวัดอุบลราชธานี โดยทั้งสองพระองค์จะเสด็จฯ เพื่อทรงประกอบพิธียกฉัตรประดิษฐานเหนือพระประธาน พระวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ในวันที่ 30 เมษายน 2565 เวลา 17.00 น. ณ วัดมหาวนาราม (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น และเป็นบุญญาธิการของพ่อแม่พี่น้องชาวอุบลราชธานีทุกท่าน ที่จะได้มีโอกาสรับเสด็จพระองค์ท่านทั้งสองพระองค์
ขอเชิญชวนชาวอุบลฯ ร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ ในวันที่ 30 เมษายน 2565 โดยทางจังหวัดได้จัดสถานที่เฝ้ารับเสด็จ ไว้ทั้งภายในกองบิน 21 และตลอดเส้นทางที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งทั้งสองข้างทาง และภายในบริเวณวัดมหาวนาราม
สำหรับรายละเอียดเส้นทางเบื้องต้นที่ได้กำหนดเส้นทางพระราชดำเนิน มีดังนี้ เสด็จฯ ออกจากกองบินที่ 21 เข้าสู่ถนนชยางกูร ผ่านสี่แยกกิโลศูนย์ ถึงสี่แยกตลาดน้อย เลี้ยวเข้าสู่ถนนพิชิตรังสรรค์ ไปถึงแยกหน้าวัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่ และเลี้ยวเข้าสู่วัดมหาวนาราม
วัดมหาวนาราม เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี เดิมมีชื่อว่า "วัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์" ภายหลังเรียกว่า "วัดป่าใหญ่" และต่อมาเปลี่ยนเป็น "วัดมหาวนาราม" ตามสมัยนิยม นับว่ามีความสำคัญยิ่งในด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดี มาเป็นเวลายาวนานกว่า 200 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นพระอารามที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินแปลง พระพุทธรูปองค์ศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี
พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3 เมตร สูง 5 เมตร งดงามด้วยพุทธศิลป์แบบล้านช้าง โดยองค์พระเป็นปูนปั้นที่เรียกว่า ปูนชะทายคือการใช้ดินโพนผสมกันกับกาวหน้า แล้วนำมาโบกคล้ายกับซีเมนต์ จึงนำมาลงรักปิดทอง นามของพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงนั้น หมายถึง พระพุทธรูปที่พระอินทร์มาสร้างขึ้น มีตำนานกล่าวว่า มีทั้งสิ้น 3 องค์ คือ องค์หนึ่งอยู่ที่เวียงจันทร์ องค์หนึ่งนครพนม และองค์ที่อยู่วัด มหาวนารามแห่งนี้นี่เอง
จากหลักฐานศิลาจารึกวัดป่าใหญ่ ผู้สร้างพระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง คือ ท่านพระมหาราชครูศรีสัทธรรมวงศา พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ ได้พร้อมใจกันสร้างแล้วเสร็จ ทำพิธีพุทธาพิเษก และเบิกเนตรแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 จ.ศ.1169 ปีเมิงเหม้า ตรงกับ พ.ศ.2350 นพศก เมื่อยามแถใกล้ค่ำ (ประมาณ 15.00-16.30 น.) เจ้าเมืองอุบลในขณะนั้นคือ พระพรหมวรราชสุริยวงศ์ เป็นเจ้าเมืองคนที่ 2 ซึ่งได้มาสร้างวิหารในวัดตั้งแต่ปี พ.ศ.2348 และมาแล้วเสร็จในปีเดียวกันนี้ ด้วย
หลังจากสร้างวิหารได้ 2 ปี จุลศักราชได้ 189 ตัว (พ.ศ.2350) ได้ยกฐานะขึ้นเป็นวัดประจำเจ้าเมืองคนที่สอง และในปีเดียวกัน พระมหาราชครูศรีสัทธรรมวงศา จึงได้นำพาศิษยานุศิษย์ ก่อสร้างพระพุทธรูปองค์ประธานในวิหารและขนานนามว่า "พระเจ้าอินแปง" พร้อมกับนำดินทรายเข้าวัด
ซึ่งเหตุการณ์ในการก่อสร้างพระเจ้าอินแปงนั้นได้รับคำกล่าวขานว่า เมื่อช่างได้ปั้นพระเจ้าอินแปง จนกระทั่งถึงบริเวณพระพักตร์ ก็ได้มีฝนตก ฟ้าร้องอยู่ตลอดเวลา ใกล้จะเสร็จอยู่แล้ว เพราะเหลือแต่การตกแต่งให้สวยงามเท่านั้น จึงได้พากันเลิกงานปั้นพระพักตร์ไว้ก่อน จากนั้นได้พากันกลับบ้าน พอถึงตกดึกก็ได้มีแสงสว่างเต็มบริเวณวัดไปหมด และเกิดลำแสงพวยพุ่งสู่อากาศ ผู้คนก็ต่างตื่นตกใจและวิ่งมาดูในวัด ก็ไม่เห็นมีอะไร จึงกลับสู่บ้านเรือนของตน พอรุ่งเช้าก็ปรากฎว่า พระพักตร์ที่ยังตกแต่งไม่เสร็จนั้นก็ได้สำเร็จเรียบร้อยสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
พอเห็นเป็นอย่างนั้น ชาวบ้านก็พูดว่าเทวดามาสร้าง พระอินทร์แปลงร่างมาสร้าง แปลงร่างลงมาเป็นตาผ้าขาวมาสร้าง จึงได้สวยงามอย่างนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดามาสร้างจะไม่สวยงามได้เพียงนี้ เหตุนั้นจึงได้ขนานนามว่า "พระเจ้าอินแปง" และต่อมาจึงเรียกว่า พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง จึงเกิดความเลื่อมใส และเชื่อมั่นว่าการที่พระพักตร์ของพระองค์พระเจ้าอินแปง ได้รับการตกแต่งจากพระอินทร์ ซึ่งแสดงถึงความความมหัศจรรย์ในพุทธานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บุญบารมีแห่งพระมหาราชครูศรีสัทธรรมวงศา บารมีแห่งเทวานุภาพขององค์อัมรินทราธิราช
ขอเชิญประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปในการประกอบพิธียกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือเศียร พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 30 เมษายน 2565 เวลา 17.00 น.