พิธีบวงสรวงโครงการบูรณะศาลาการเปรียญวัดมณีวนาราม
วันที่ 15 มิถุนายน 2562 นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล การดําเนินการโครงการบูรณะศาลาการเปรียญวัดมณีวนาราม ตําบลในเมือง อําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
การบูรณะศาลาการเปรียญในครั้งนี้ เป็นการรักษาศาสนสถานของวัดมณีวนาราม ให้มีความมั่นคง สวยงาม มีคุณค่า เพื่อสืบสานต่อยอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนตลอดไป อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจ ความผูกพัน ความศรัทธา ระหว่างวัดกับญาติโยม โดยมีคุณแม่วันเพ็ญ ศรีวัฒนชัย เป็นผู้นําที่เห็นว่า ศาลาการเปรียญแห่งนี้ ญาติโยมได้ใช้ในการบําเพ็ญบุญ ประกอบศาสนกิจมาอย่างต่อเนื่องมาช้านาน มีความชํารุด ทรุดโทรมตามกาลเวลา จึงพร้อมใจกัน เสนอให้มีการบูรณะปรับปรุงศาลาการเปรียญหลังนี้ เพื่อก่อเกิดอรรถประโยชน์สูงสุด เป็นทั้งศาลาการเปรียญ หอแจก และพระวิหาร อยู่เคียงคู่กับ วัดมณีวนาราม ตลอดไป
นอกจากนี้ ถือเป็นความร่วมมือกันของ “บวร” คือ บ้าน วัด และราชการ กล่าวคือ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ได้เห็นความสําคัญให้การสนับสนุนกับดําเนินการออกแบบ และช่วยควบคุมการบูรณะให้ถูกต้อง สมบูรณ์ จึงสามารถกล่าวได้ว่า ศาลาการเปรียญหลังนี้ จะเป็นโบราณสถานที่สําคัญของจังหวัดอุบลราชธานี และของประเทศไทย ต่อไป
นับตั้งแต่การสร้างวัดมณีวนาราม หรือ “วัดป่าแก้วมณีวัน” (วัดป่าน้อย) ราวปลายรัชกาล ที่ 3 โดยการนําของ พระอริยวงศาจารย์ญาณวิมล อุบลสังฆปาโมกข์ (สุ้ย) และเจ้าอาวาสรูปต่อๆ มา ได้มีการสร้างเสนาสนะต่างๆ เพื่อประกอบกิจของสงฆ์ ซึ่งคงจะมีศาลาการเปรียญ วิหาร หรือที่ท้องถิ่น เรียก “หอแจก” แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน
จนกระทั่งในยุคสมัยของพระครูวิจิตธรรมภาณี (พวง ธมฺมทีโป) เจ้าอาวาสรูปที่ (ครองวัดราว พ.ศ. 2451-2480) จึงปรากฏหลักฐานการสร้างศาลาการเปรียญ ในราวปี พ.ศ.2471 สิ้นเงิน 1,550 บาท เป็นเงินทุนวัด 1,000 บาท ท่านเจ้าอาวาสพระครูวิจิตรธรรมภาณี 500 บาท และ นางบุญอุ้ม อินทรีย์ 50 บาท โดยมีลักษณะ ดังนี้
“ศาลาการเปรียญ 1 หลัง 5 ห้อง มีเฉลียงรอบ กว้าง 14 เมตร ยาว 23.65 เมตร เสาตอนล่างก่ออิฐโบกปูน หลังคาชั้นบนมุงสังกะสี รอบเฉลียงมุงกระเบื้องไม้ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ของโบสถ์ ห่างจากโบสถ์ 11 เมตร”
ศาลาการเปรียญนี้ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธอนันตชินะ พระพุทธรูปโลหะปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 48 นิ้ว สูง 69 นิ้ว เป็นประธาน และมีพระบริวารอีก 2 องค์ คือ พระศาสดา กับพระไชยราช การมีพระประธานประดิษฐานเพื่อประกอบศาสนกิจศาลาการเปรียญแห่งนี้ จึงมีสภาพเป็นพระวิหารไปด้วย
การบูรณะศาลาการเปรียญ (วิหาร) นี้ ได้ดําเนินการต่อเนื่อง เช่น ในสมัยพระธรรมเสนานีเป็นเจ้าอาวาส เปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยจากศาลาชั้นเดียวเป็นศาลา 2 ชั้น 9 ห้อง กว้าง 17.70 เมตร ยาว 30.60 เมตรและมีการก่อผนังโดยรอบทําเป็นหอฉัน ในยุคสมัยของพระกิตติญาณโสภณ เจ้าอาวาสองค์ก่อน โดยดำรงสภาพดังกล่าว จนถึงปัจจุบัน
สําหรับการบูรณะปรับปรุงในครั้งนี้ จะดําเนินการตามโครงการและแบบของกรมศิลปากร ซึ่งอธิบดีกรมศิลปากรได้อนุมัติเมื่อ 25 มกราคม ๒2562 ในวงเงิน 8,990,000 บาท (แปดล้านเก้าแสนเก้าหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งคุณแม่วันเพ็ญ ศรีวัฒนชัย โยมอุปัฏฐากวัด จะเป็นเจ้าภาพหลัก ได้ลงนามในสัญญาจ้าง บริษัทอมรพัฒน์ บูรณะ จํากัด เป็นผู้รับจ้างเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 ระยะเวลาดําเนินการ 210 วัน เริ่ม 17 มิถุนายน 2562 จะเสร็จสิ้น ภายในวันที่ 12 มกราคม 2563 แบ่งเป็นงวดงานจ้าง ทั้งสิ้น 9 งวด มีงานบูรณะ ที่จะดําเนินการประกอบด้วย
- หมวดงานหลังคา
- หมวดงานฝ้า เพดาน
- หมวดงานผนัง เสา ประตู หน้าต่าง
- หมวดงานพื้น
- หมวดงานบันได
- หมวดงานสุขภัณฑ์
- หมวดงานไฟฟ้า และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามแบบ
การจัดให้มีพิธีบวงสรวงในวันนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นนิมิตรหมายที่ดี สําหรับ การเริ่มต้น สร้างสรรค์ศาสนสถานแห่งนี้ ให้เป็นโบราณสถานที่สําคัญของจังหวัดอุบลราชธานี และของประเทศไทยต่อไป และยังขอใช้โอกาสนี้ ประกาศเกียรติคุณ ขอขอบคุณ และยกย่อง ในบุญกุศลที่คุณแม่วันเพ็ญ ศรีวัฒนชัย ได้บําเพ็ญ ในครั้งนี้ ให้เป็นที่ประจักษ์แจ้งต่อ สาธารณชน ตลอดไป