พิธีเปิดผ้าแพรคลุมพระรูปเหมือน กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ อุบลฯ
วันที่ 3 มกราคม 2563 ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชอธิษฐานจิต พระรูปเหมือนและเหรียญที่ระลึก พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ (พระองค์เจ้าชายชุมพลสมโภช)
โดยมีพระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พระสงฆ์สมณศักดิ์ จำนวน 10 รูป ร่วมเจริญพระพุทธมนต์ และพระเกจิอาจารย์นั่งปรก 4 รูป มีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมใจกันนุ่งขาวห่มขาวเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จัดงานครบรอบ 84 ปี ขึ้น และได้ก่อสร้างพระรูปเหมือน พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งหลอมเป็นโลหะรมดำขนาดความสูง 300 เซนติเมตร พร้อมมีแท่นประดิษฐานบริเวณสวนหย่อมหน้าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติคุณและสำนึกถึงคุณูปการของพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ที่มีต่อประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ได้สักการะ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
สำหรับกิจกรรม ในภาคเช้า ประกอบด้วย พิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 84 รูป ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาล และเปิดกิจกรรมโรงทาน
ภาคบ่าย เป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์สมโภชอธิฐานจิต พระรูปเหมือนและเหรียญที่ระลึก จากนั้นประธานในพิธีได้ประกอบพิธีเปิดผ้าแพรพระรูปเหมือน พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ การแสดงรำกฤษดาอภินิหาร ปิดท้ายด้วยการร่วมร้องเพลงมาร์ทสรรพสิทธิ์ และเพลงสรรพสิทธิ์บ้านแห่งรอยยิ้มของผู้บริหาร บุคคลากรของโรงพยาบาล
พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช เป็นพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ที่ 37 และเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 21 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระองค์ที่ 3 ในเจ้าจอมมารดาพึ่ง ประสูติเมื่อวันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2400 ทรงเป็นต้นราชสกุลชุมพลพระองค์เจ้าชุมพลสมโภช
ทรงสำเร็จการศึกษาทางด้านกฎหมายและด้านช่าง ทรงเริ่มรับราชการในกรมช่างทหารใน และดำรงตำแหน่งที่สำคัญ อาทิ ตำแหน่งราชองครักษ์ อธิบดีศาลฎีกาและศาลแพ่ง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระเกียรติยศเป็น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงใหญ่ต่างพระองค์
จากนั้นได้เสด็จไปรับราชการที่มณฑลลาวกาว ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นมณฑลอีสาน ครอบคลุมท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม นครจำปาศักดิ์ และกาฬสินธุ์ และตั้งกองบัญชาการที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ปี พ.ศ. 2436 โดยทรงรับผิดชอบทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน ซึ่งพระองค์ทรงปกครองมณฑลอิสานเป็นเวลากว่า 17 ปี กระทั่งปี พ.ศ. 2453 ได้เสด็จกลับกรุงเทพฯ และทรงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงวังใน สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงได้รับสถาปนาพระเกียรติยศเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2465 ได้สิ้นพระชนม์ รวมพระชันษาได้ 65 ปี