เตือนภัย ถูกหลอกให้ใช้บัตร ปชช.ซื้อมือถือ สุดท้ายถูกฟ้อง!
เอไอเอสเตือนภัย ขบวนการหลอกลวง ว่าจ้างให้เหยื่อใช้บัตรประชาชนซื้อเครื่องโทรศัพท์พร้อมแพ็กเกจในราคาพิเศษจากค่ายมือถือ ซึ่งในเงื่อนไขจะต้องมีการเปิดเบอร์และใช้งานกับเครื่องที่ซื้อมาพร้อมชำระเงินต่อเนื่องตามระยะเวลาที่กำหนด แต่เหยื่อกลับเอาเครื่องไปให้คนร้ายขายต่อ แลกกับค่าตอบแทนโดยไม่ชำระค่าบริการ ท้ายที่สุดคนร้ายปล่อยให้เหยื่อถูกฟ้องร้องจากบริษัทฯ เพราะผิดเงื่อนไขตามสัญญานอกจากนั้น สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องต่อจากคนร้าย เสี่ยงเข้าข่ายรับซื้อของโจรด้วยเช่นกัน
นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าฝ่ายงานประชาสัมพันธ์เอไอเอส กล่าวว่า “ปัจจุบันมีการเกิดขึ้นของอาชญากรรมดังกรณีข้างต้นเป็นจำนวนมาก โดยพบว่ามีทั้งกลุ่มที่โดนหลอกลวง และกลุ่มที่จงใจใช้บัตรประชาชนซื้อเครื่องโทรศัพท์มือถือพร้อมแพ็กเกจ จากนั้นนำเครื่องโทรศัพท์ไปแยกขายต่อโดยไม่มีการชำระค่าบริการตามเงื่อนไขในสัญญา ซึ่งบริษัทฯ กังวลถึงผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นในภาพรวม และอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปริมาณของประชาชนที่ถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความเสี่ยงของผู้ที่ซื้อเครื่องต่อโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่อาจจะเข้าข่ายรับซื้อของโจรด้วย”
“ดังนั้น จึงอยากขอแจ้งเตือนผู้ที่อาจหลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อของการกระทำ หรือจงใจกระทำการดังกล่าวข้างต้นว่า การก่อเหตุในลักษณะนี้ เจ้าของบัตรประชาชนที่ทำสัญญาซื้อเครื่องโทรศัพท์พร้อมแพ็กเกจ จะมีความผิด โดยมีบทลงโทษฐานฉ้อโกง มาตรา 341 โทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมไปถึงการมีชื่อติด Black List ในระบบส่งผลให้ในอนาคต จะมีปัญหาในการทำธุรกรรมกับค่ายมือถือ ซึ่งปัจจุบันมีระบบตรวจสอบอย่างเข้มข้น อีกทั้งในส่วนของผู้ที่รับซื้อเครื่องต่อไป จะเข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร มาตรา 357 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
“ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทฯ จำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฏหมายขั้นสูงสุดกับผู้กระทำผิดทุกราย โดยไม่มีข้อยกเว้น
ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำไปยังทุกท่านว่า อย่าหลงเชื่อและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลไปดำเนินการอย่างไม่ถูกต้อง อีกทั้งท่านที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือ ก็ขอให้ตรวจสอบแหล่งที่มาให้ดี เพราะอาจมีความเสี่ยงทั้งคุณภาพของสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการรับประกัน และผิดกฏหมายอีกด้วย” นางสายชลย้ำในตอนท้าย