ฝังใจวัยเด็ก นศ.มรภ.อุบลฯ ผลิตสื่อชนะเลิศระดับประเทศ
ผลงาน “ครูใหม่” ของทีมมิดมี่โปรดักชั่น คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ได้รับรางวัลชนะเลิศสปอตโทรทัศน์วันครู คว้าเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร และเป็นทีมเดียวที่ใช้ชื่อมหาวิทยาลัยในการประกวด
โดยคุรุสภา จัดประกวดสปอตวิทยุและสปอตโทรทัศน์ “วันครู” ประจำปี 2564 ในหัวข้อ “พลังครูไทยวิถีใหม่ ฉลาดรู้เท่าทันดิจิทัล” เพื่อรณรงค์ ส่งเสริม สนับสนุนให้เห็นคุณค่าของครู รวมทั้งสร้างสำนึกในพระคุณของครู ด้วยการผลิตสื่อในแนวทางสร้างสรรค์ในรูปแบบของสปอตวิทยุและสปอตโทรทัศน์ อีกทั้งเป็นเวทีในการแสดงออกถึงความรักและระลึกถึงพระคุณครู และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมงานวันครู
สำหรับ “มิดมี่โปรดักชั่น” (ทางทีมบอกว่าหมายถึง เงียบเชียบ ไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีตัวตน ไม่ดัง) เป็นการรวมตัวกันของนักศึกษา สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ซึ่งทุกคนในทีมมีความใฝ่ฝันและชอบเหมือน ๆ กัน คือ อยากเป็นครู และสนใจการถ่ายภาพ เลยรวมตัวกันทำกิจกรรมอยู่บ่อย ๆ ประกอบด้วย
1. ดั้ง - นายบุญอ้อม บุษภาค ชั้นปี 5
2. มิกกี้ - นายธนโชติ โกศล ชั้นปี 5
3. ภัทร - นายชินภัทร อินทุไร ชั้นปี 4
4. บีม - นางสาวมนัญชยา แสนพงษ์ ชั้นปี 4
5. ป๋อม - นายนราวิชญ์ บัวหลาย ชั้นปี 4
นายธนโชติ โกศล "มิกกี้" บอกว่า ทราบข่าวการประกวดสปอตวิทยุและสปอตโทรทัศน์ “วันครู” ประจำปี 2564 จากเว็บไซต์ของคุรุสภา พอเห็นหัวข้อการประกวดเลยมาปรึกษากันในทีมว่า อยากทำคลิปวิดีโอเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ อยากถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก สะท้อนจิตวิญญาณความเป็นครู และอยากยกย่องครูเนื่องในโอกาสวันครู
ทั้งทีมมานั่งคุยกันว่า แต่ละคนมีประสบการณ์อย่างไรบ้างในการเรียนที่ผ่านมา ทำให้นึกย้อนไปในวัยเด็กที่เป็นนักเรียน ซึ่งโรงเรียนที่ตนเรียนตอนนั้นเป็นโรงเรียนที่ห่างไกล หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า “โรงเรียนบ้านนอก”
โรงเรียนได้คอมพิวเตอร์มาใหม่ ๆ แต่ถูกตั้งเก็บไว้ในห้องแล้วคลุมด้วยผ้า ตนได้แต่ยืนมองผ่านประตูอยู่หลายครั้ง และแอบนึกในใจว่า อยากเห็นและสัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่า “คอมพิวเตอร์” ที่ถูกคลุมอยู่ในผ้านั้นเหลือเกิน
ทั้ง “ดั้ง” และ “มิกกี้” เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 5 ซึ่งผ่านการฝึกสอน (ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู) ในโรงเรียนต่าง ๆ บ่อยครั้งพบว่า ในโรงเรียนยังมีครุภัณฑ์หลายอย่าง โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์และสื่อการสอนทางด้านเทคโนโลยีที่ ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานอย่างเต็มที่ ซึ่งปัญหาอาจเกิดจากความไม่พร้อมของครู ทั้ง ๆ ที่ก่อนจะส่งมอบครุภัณฑ์เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมีการฝึกอบรมการใช้งานให้ก่อน แต่บางส่วนยังไม่กล้าใช้ เพราะ “กลัวพัง” หรือครูไม่มีเวลาเรียนรู้เพิ่มเติม เลยยังไม่ได้เริ่มสอนเด็กสักที จนทำให้เวลาล่วงเลยครุภัณฑ์หมดอายุ เป็นเหตุให้เด็ก ๆ เสียโอกาสในการเรียนรู้ที่สำคัญ
เมื่อเล่าความรู้สึกนี้ให้ทีมฟัง ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากจะถ่ายทอดความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกของเด็กนักเรียนที่อยากเรียนรู้และเปิดประสบการณ์ใหม่ อยากปลุกจิตวิญญาณความเป็นครูและยกย่องครูที่มีความกล้าเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับการศึกษาของลูกศิษย์ และเชื่อว่าพวกตนจะถ่ายทอดออกมาได้ดี เพราะตรงตามสาขาวิชาที่ศึกษาอยู่ จากนั้นจึงเริ่มวางแผนงานกัน
ช่วงทำ production ทีมงานก็หวังลึก ๆ พอทำเสร็จก็คุยกันว่าขอติด 1 ใน 5 ก็เอาแล้ว ในวันที่ผลการประกวดออกมา ทุกคนดีใจกันใหญ่ น้ำตาไหล ไม่คิดว่างานจะโดนใจกรรมการจน “ชนะเลิศ”
นายบุญอ้อม บุษภาค หรือ “ดั้ง” กล่าวว่า สุขใจที่ทำคลิปนี้ขึ้นมา และสุขใจที่พวกตนเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะช่วยกระตุ้นจิตวิญญาณ เพื่อให้ครูกล้าที่จะเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีพัฒนาการศึกษามากขึ้น
ขณะที่ มิกกี้ กล่าวว่า การที่พวกเรากำลังเรียน “ครุศาสตร์” อยู่ ทำให้พวกเราเข้าใจในบทบาทและความรู้สึกของทั้งครูทั้งเด็กนักเรียนอย่างมาก เรื่องความรู้ในเรื่อง production หรือการถ่ายทำก็คงไม่ได้มีแตกต่างกับการเรียนคณะอื่นมากนัก แต่สิ่งที่เราซึมซับมาตลอดเวลาที่เรียนครุศาสตร์ คือ “อุดมการณ์”
ทีมเราทั้งทีม “อยากเป็นครู” และมีความชอบเหมือนกันคือ “ชอบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี”
การเรียนครุศาสตร์ทำให้เราต้องออกฝึกสอนอยู่หลายครั้ง สิ่งเหล่านี้ช่วยบ่มเพาะพวกเราให้เข้าใจปัญหาและบริบทการศึกษาในพื้นที่ชนบท และเมื่อเราเป็นคนรุ่นหลัง (รุ่นใหม่) พวกเราเลือกที่จะลงมือหาทาง “เอาชนะปัญหาและอุปสรรค” มากกว่าการนั่งวิพากษ์ปัญหาเพียงอย่างเดียว การมีอาจารย์ มีพี่ มีเพื่อน การเรียน การฝึกสอน และกิจกรรมนักศึกษา ช่วยให้เราซึมซับอุดมการณ์เหล่านี้ “พลังปัญญา รัก ศรัทธา และพัฒนาวิชาชีพครู”
ต่อคำถามที่ว่า “คนเป็นครู ทำไมต้องดูคลิปนี้”
ทุกคนพูดพร้อมๆ กันว่า “เติมไฟไงครับ”
คลิปนี้ ไม่ได้ต้องการตัดพ้อ ต่อว่าคุณครู แต่เป็นการให้กำลังใจ ให้ความมั่นใจ กระตุ้นจิตวิญญาณให้เต็มเปี่ยมเหมือนกับตอนที่เพิ่งเรียนจบ ตั้งใจเป็นครูใหม่ ๆ ให้กลับมาอีกครั้ง และให้ลองย้อนกลับไปมองมุมมองของเด็กของเราที่เฝ้ารอโอกาสอยู่
“เทคโนโลยีมีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้ให้กลัว”
เติมไฟให้รู้ว่าความกล้าลุยของเรา จะจุดประกายและสร้างโอกาสที่ดีให้กับ “ลูกศิษย์” ที่เรารัก
น้อมคารวะคุณครูทุกท่าน
16 มกรา’ วันครูแห่งชาติ ...
ขอขอบคุณ พงพิทักษ์ อุปไชย ผู้สัมภาษณ์
และ อ.เชษฐ์ ศรีไมตรี เรียบเรียง