ศูนย์บริหารฯ ลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) จัดทัพพร้อมรับมวลน้ำ
วันที่ 11 ตุลาคม 2564 ดร.วัชระ เสือดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) ในฐานะประธานศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำว่า
จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดีทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากขึ้น กรมชลประทาน จะดำเนินการเก็กกักน้ำดังกล่าวสำหรับไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ดังนี้
พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำมูล ในเขต อ.เมืองอุบลราชธานี ได้แก่
- บริเวณชุมชนวังแดง มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 1.70 ม.
- ชุมชนหาดคูเดื่อ น้ำท่วมขังสูงประมาณ 0.10 ม.
- ชุมชนหาดวัดใต้ น้ำท่วมขังสูงประมาณ 0.20 - 0.80 ม.
- ชุมชนหลังโรงเรียนสมเด็จ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อเข้าท่วมมีบ้านเรียนราษฎร น้ำท่วมขังสูงประมาณ 0.40 ม.
- ชุมชนเยาวเรศ 3 น้ำท่วมขังสูงประมาณ 0.40 ม.
- ริมตลิ่งชุมชนทัพไท น้ำท่วมขังสูงประมาณ 0.20 – 0.60 ม.
- ชุมชนวังสว่าง น้ำท่วมขังสูงประมาณ 0.20 - 0.60 ม.
พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำมูล ในเขต อ.วารินชำราบ ได้แก่ ชุมชนท่าบ้งมั่ง , ชุมชนเกตุแก้ว , ชุมชนหาดสวนยา , ชุมชนดีงาม และชุมชนดอนงิ้ว น้ำท่วมสูงประมาณ 0.30 – 0.70 ม.
ขณะเดียวกัน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง ได้ประสานไปยังเขื่อนราษีไศล สำนักงานชลประทานที่ 8 ว่าเมื่อระดับน้ำหน้าเขื่อนราษีไศล ถึงระดับ +119.00 ม. (รทก.) ขอให้ทำการแขวนบานระบายพ้นน้ำทั้ง 7 บาน เพื่อช่วยเพิ่มการระบายให้กับลำน้ำมูลอย่างเต็มศักยภาพตามธรรมชาติ เนื่องจากขณะนี้มวลน้ำจาก จ. นครราชสีมา กำลังทะยอยเคลื่อนตัวลงสู่เขื่อนราษีไศล เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด (สุรินทร์ ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ)
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12 นิ้ว 2 เครื่อง และขนาด 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำวัดเสนาวงศ์ อ.วารินชำราบ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ขนาด 4 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่องบริเวณชุมชนท่ากอไผ่ อ.วารินชำราบ พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 100 เครื่อง บริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง และเรือสูบน้ำอีก 1 ลำ บริเวณแก่งสะพือ
นอกจากนี้ สำนักเครื่องจักรกล ได้เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ กว่า 1,200 หน่วย ที่พร้อมจะสนับสนุนภารกิจในการช่วยเหลือประชาชน ตามที่ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ได้กำชับไว้
หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) สำนักงานชลประทานที่ 7 โทร.0 4524 5320 หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา