ในหลวง-พระราชินี ทรงประกอบพิธียกฉัตรขึ้นประดิษฐานบนพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง
วันที่ 30 เมษายน 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงประกอบพิธียกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือพระประธานพระวิหาร พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี
เวลา 17.22 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี, นายศุภมิตร บุญประสงค์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาภาค 3, พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 , นาวาอากาศเอก พฐา แก่นทับทิม ผู้บังคับการกองบิน 21 พร้อมข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น พลโท สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 กราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นแท่น ทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ ก่อนจะประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดมหาวนาราม
เวลา 18.02 น. เสด็จพระราชดำเนินถึงยังวัดมหาวนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระอุโบสถ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง จำลอง พระประธานพระอุโบสถ ทรงกราบ
แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยัง พระวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ทรงจุดธุปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ทรงกราบ เมื่อประธานสงฆ์ถวายศีลจบ ทรงประกอบพิธียกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือพระประธานพระวิหาร พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี มาช้านาน
สร้างขึ้นเมื่อปี 2350 มีศาลาครอบองค์พระ เพื่อป้องกันแดดฝน และมีการปฏิสังขรณ์ปรับปรุงตัวศาลาเรื่อยมา จนกระทั่งปี 2550 เห็นว่ามีสภาพทรุดโทรมอาจเกิดความเสียหายต่อองค์พระ และเป็นอันตรายต่อพุทธศาสนิกชนที่เข้ามากราบไหว้
ทางวัดและผู้มีจิตศรัทธา จึงได้ดำเนินการจัดสร้างพระวิหารหลังใหม่ ที่มีความมั่นคงแข็งแรง สวยงาม ภายนอกแลดูหนักแน่นมั่นคง ภายในโอ่โถง เป็นอาคารพื้นถิ่นอีสานประยุกต์ ในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาจั่วเรียงซ้อนกัน 5 ชั้น กลางหลังคาชั้นบนสุดเป็นยอดเจดีย์ บริเวณหน้าจั่วทั้งด้านหน้า และหลังสลักหินเป็นภาพพุทธประวัติ หลังคาคลุมลงมาต่ำตามแบบศิลปะลาวล้านช้าง สร้างแล้วเสร็จในปี 2562
ทั้งนี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เห็นควรจัดสร้างฉัตรขาวขลิบทอง 5 ชั้นตามแบบโบราณ ถวายพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง มีขนาดกว้าง 2 เมตร สูง 3.6 เมตร ใส่พวงแก้ว โครงทําด้วยไม้สัก ยอดไม้สักแกะลาย ใช้ผ้าขาวนวลขลิบขอบทองระบาย 2 ชั้น ใส่อุบะพวงจําปาทอง ขึ้นประดิษฐานเหนือเศียรพระ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในพระพุทธศาสนา และเป็นสรรพสิริมงคลอันสูงสุดสืบไป
โอกาสนี้ พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา จากนั้น สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ประสิทธิ์ เขมงฺกโร) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานโครงการก่อสร้างพระวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ถวายพระพุทธรูปพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงจำลอง ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระครูสารกิจโกศล (สุดใจ นิสโสโก) เจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม ถวายพระกริ่งพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จากนั้น ทรงเยี่ยมราษฎรที่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และพื้นที่ใกล้เคียงที่ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
วัดมหาวนาราม หรือที่ชาวอุบลราชธานีเรียกว่าวัดป่าใหญ่ เดิมเป็นวัดราษฎร์ ต่อมาได้ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2521 ภายในวัดแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย เขตพุทธาวาส มีพระวิหาร "พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง" และพระอุโบสถอยู่กลางวัด, เขตสังฆาวาส เป็นที่พักจำพรรษาของพระสงฆ์และสามเณร และโรงเรียนกิตติญาณวิทยา เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา เปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียน 160 รูป
เวลา 19.04 น. เสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ แล้วประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร