กรมชลฯ ถอนเครื่องผลักดันน้ำ เหตุกระแสน้ำมูลเร็วกว่าเครื่อง
วันที่ 10 ตุลาคม 2565 รายงานสถานการณ์น้ำท่าแม่น้ำมูลสถานี M.7 สะพานเสรีประชาธิปไดย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเวลา 06:00 น. ระดับน้ำวัดได้ 116.47 ม.รทก. เพิ่มขึ้น 0.04 เมตร จากเมื่อวาน สูงกว่าปีที่แล้ว 4.25 เมตร อัตราการไหล 5,705.00 ลบ.ม./วินาที
สถิติระดับน้ำสูงสุดจังหวัดอุบลราชธานี
วันที่ 17 ตุลาคม 2521 สูงสุด 12.76 เมตร
วันที่ 18 ตุลาคม 2493 สูงสุด 11.56 เมตร
วันที่ 10 ตุลาคม 2565 วัดได้ 11.47 เมตร (06.00 น.)
วันที่ 13 กันยายน 2562 สูงสุด 10.97 เมตร
วันที่ 27 ตุลาคม 2509 สูงสุด 10.79 เมตร
วันที่ 1 ตุลาคม 2545 สูงสุด 10.77 เมตร
นายจักริน ประเสริฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 ทำหนังสือด่วนที่สุด แจ้งเรื่อง ขอถอนเครื่องผลักดันน้ำ ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป เนื่องจากกระแสน้ำจากแม่น้ำมูล ที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงมีความเร็วมากกว่าเครื่องผลักดันน้ำ
เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาระดับน้ำในแม่น้ำโขงหนุนขึ้นสูง ทำให้น้ำจากแม่น้ำมูล ไหลลงสูแม่น้ำโขงได้ช้าลง ทางกรมชลประทานโดยสำนักงานชลประทานที่ 7 จึงได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล อำเภอโขงเจียม จำนวน 96 เครื่อง เพื่อเร่งผลักดันน้ำลงสู่แม่น้ำโขง
ปัจจุบัน จากการตรวจสอบความเร็วของน้ำในแม่น้ำมูล บริเวณสะพานโขงเจียม ที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ของศูนย์อุทกวิทยาที่ 4 กรมชลประทาน โดยใช้เครื่องมือ River surveyor พบว่ากระแสน้ำจากแม่น้ำมูล ที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงมีความเร็วมากกว่าเครื่องผลักดันน้ำ สาเหตุจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำของแม่น้ำมูลถึง 2.13 เมตร และระดับน้ำที่แม่น้ำโขงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง การไหลของน้ำจากแม่น้ำมูลที่ไหลลงสูแม่น้ำโขง จึงมีความลาดชันสูง
ทางกรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 7 จึงได้พิจารณาอย่างรอบครอบแล้วว่า เห็นสมควรถอนเครื่องผลักดันน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูลที่อำเภอโขงเจียม ทั้ง 96 เครื่อง เพื่อมิให้เป็นการขวางการไหลของน้ำ โดยนำมาเก็บไว้บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล อำเภอโขงเจียม หากระดับน้ำในแม่น้ำโขงขึ้นสูง และเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำของแม่น้ำมูล ทางสำนักงานชลประทานที่ 7 จะดำเนินการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเร่งการระบาย
สำหรับที่ สะพานข้ามแม่น้ำมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จากการตรวจสอบด้วยเครื่องมือลักษณะเดียวกัน พบว่า บริเวณช่วงกลางแม่น้ำมีอัตราการไหลที่สูงกว่าความสามารถเครื่องผลักดันน้ำ จึงจะดำเนินการถอนเครื่องผลักดันน้ำที่ติดตั้งบริเวณช่วงตรงกลางของลำน้ำ ประมาณ 30 เครื่อง เพื่อมิให้ไปขวางการไหลของน้ำ ส่วนบริเวณริมตลิ่งทั้ง 2 ข้าง ยังมีความเร็วของน้ำที่ข้าอยู่ จึงจะยังติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ทั้ง 2 ข้างต่อไป โดยจะเริ่มถอนเครื่องผลักดันน้ำตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2565