ตั้งศาลเขมราฐงบรอแล้ว 300 ล้านบาท กรมที่ดินให้ทำเรื่องขอถอนสภาพที่ดินใหม่อีกครั้งพร้อมกับที่ว่าการอำเภอเขมราฐ นายอำเภอรับปากทำทันที คาดกินเวลาเกือบปีกว่าจะสิ้นสุดกระบวนการ

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 นายชูศักดิ์ สุทธิรารักษ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เขต 1 อ.เขมราฐ และรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการก่อตั้งศาลจังหวัดเขมราฐว่า ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องดำเนินการเพื่อตั้งศาลจังหวัดเขมราฐ และต่อมาได้รับอนุมัติให้ก่อตั้งเป็นศาลแขวงเขมราฐ พร้อมทั้งได้รับอนุมัติงบประมาณก่อสร้างกว่า 300 ล้านบาทนั้น

แต่ทว่ายังไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากติดที่ต้องถอนสภาพที่ดินจากที่สาธารณะประโยชน์ให้แล้วเสร็จก่อน โดยกรณีการขอถอนสภาพที่ดินขณะนั้น ตนได้ร่วมกับผู้นำหลายฝ่ายในพื้นที่ได้เพื่อผลักดันและดำเนินการ ตั้งแต่สมัยผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ และ นายชลธี ยังตรง กระทั่งถึงสมัยผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี คนปัจจุบันคือ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ

โดยล่าสุดผลการดำเนินการเรื่องขอถอนสภาพที่ดินเพื่อก่อตั้งศาล กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือกลับมาถึงจังหวัดอุบลราชธานี ว่า ให้ดำเนินการทำเรื่องขอถอนสภาพที่ดินแปลงดังกล่าวกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง เนื่องจากที่ดินแปลงที่จะใช้ตั้งศาลเป็นแปลงเดียวกับที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอเขมราฐในปัจจุบัน ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการขอถอนสภาพจากการเป็นที่ดินสาธารณะเช่นเดียวกัน ดังนั้นเพื่อให้การประกาศในพระราชกฤษฎีกายกเลิกที่ดินสาธารณะในที่ดินแปลงดังกล่าวไปพร้อมกัน จึงขอให้ดำเนินการขอถอนสภาพที่ดินเข้ามายังกรมที่ดินใหม่อีกครั้ง

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการก่อตั้งศาลเขมราฐนับแล้วก็ถือว่าได้ดำเนินการมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยผู้ว่าฯ วัฒนา พุฒิชาติ เป็นนายอำเภอเขมราฐ กระทั่งถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 10 ปี จนล่าสุดจะได้รับการอนุมัติให้ตั้งเป็นศาลแขวงเขมราฐ ตามระเบียบของกระทรวงยุติธรรมที่ระบุว่าศาลที่จะก่อตั้งใหม่ต้องห่างจากศาลเดิมไม่น้อยกว่า 70 กม. ดังนั้นหากการก่อตั้งศาลแขวงเขมราฐได้ประสบผลสำเร็จ ต่อไปในอนาคต ศาลแขวงเขมราฐจะสามารถยกระดับขึ้นเป็นศาลจังหวัดได้ในอนาคต เช่นเดียวกับศาลแขวงหลายแห่งของประเทศไทย ที่เริ่มต้นจากการเป็นศาลแขวง ในเวลาต่อมาก็จะได้รับการยกระดับขึ้นเป็นศาลจังหวัด

ซึ่งไม่ว่าจะอย่างไรหากศาลถูกก่อตั้งขึ้นในพื้นที่ได้ก็จะเป็นผลดีกับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างสะดวกไม่ต้องเดินทางไกลเข้ามาในตัวเมืองกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งจากระยะทางที่ห่างไกลทำให้ประชาชนที่โดนข้อหาบางรายไม่สามารถหาเงินประกันตัวได้ทันการ จำเป็นต้องถูกคุมขังเป็นต้น การตั้งศาลที่ อ.เขมราฐ หากลุล่วงจะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง เขมราฐ นาตาล โพธิ์ไทร กุดข้าวปุ้น และอำเภอใกล้เคียงเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้สะดวกยิ่งขึ้น

“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีงบรอที่จะก่อสร้างแล้วเกือบ 300 กว่าล้านบาท กระบวนการนับหนึ่งใหม่ในการขอเพิกถอนที่ดินสาธารณะประโยชน์ แปลง ป่าช้า ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 64 ไร่เศษ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอเขมราฐ ประมาณ 30.3 ไร่เศษ และที่จะเป็นที่ตั้งของศาลแขวงเขมราฐ จำนวน 33.1 ไร่เศษ พื้นที่นี้จะต้องขอถอนสภาพที่ดินต่อกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย โดยทำเรื่องขอถอนสภาพเข้าไปใหม่พร้อมกันอีกครั้ง

ซึ่งกระบวนการตั้งแต่ยื่นคำขอ ณ สำนักงานที่ดินเขมราฐ ,สอบสวนประวัติความเป็นมา,ทำแผนที่ พ.ร.ฏ.,ทำประชาคมรับฟังความคิดเห็นประชาชน , ขอความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ,การประชุมคณะกรรมการกำกับการใช้ประโยชน์ของจังหวัดอุบลฯ จนกระทั่งให้จังหวัดส่งเรื่องให้กรมที่ดิน กระบวนการเหล่านี้จะกินระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน จากนั้นเมื่อเรื่องไปถึงกรมที่ดิน กว่าจะพิจารณาและประกาศในพระราชกฤษฎีกาได้กินเวลาอย่างน้อย 2 เดือน ซึ่งจนถึงขณะนี้แม้ระยะเวลาที่ผ่านมายาวนานจนแทบจะถอดใจ แต่เพื่อให้การดำเนินการก่อตั้งศาลให้กับชาวบ้านให้สำเร็จ ทุกฝ่ายก็พร้อมที่จะดำเนินการร่วมกันกันอีกครั้ง เห็นได้จากเมื่อวันที่ 22 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ทุกฝ่ายในพื้นที่ได้ร่วมประชุมหารือกันและเห็นพ้องที่จะดำเนินการเรื่องการถอนสภาพที่ดินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว” นายชูศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายรัฐพงศ์ รุ่งธนศักดิ์ นายอำเภอเขมราฐ เปิดเผยว่า ภายหลังตนย้ายเข้ามารับตำแหน่งนายอำเภอเขมราฐก็ได้รับทราบเรื่องราวความเป็นมาของการก่อตั้งศาลเขมราฐจาก นายชูศักดิ์ สุทธิรารักษ์ พร้อมทั้ง นายสุวิทย์ แก้วกล้า นายกเทศบาลตำบลหนองผือ ที่นำเรื่องนี้เข้าหารือเร่งด่วน ซึ่งเมื่อตนได้รับทราบเรื่องก็จะเร่งทำแบบทำทันที เพื่อให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์จากการมีศาลในพื้นที่โดยเร็วที่สุด โดยการดำเนินการเรื่องการรังวัดที่ดินเพื่อทำเรื่องขอถอนสภาพฯ ในส่วนของพื้นที่ตั้งศาลนั้นได้ทำการรังวัดไปเรียบร้อยก่อนหน้านั้นแล้ว เหลือเพียงในส่วนของพื้นที่ตั้งที่ว่าการอำเภอที่จะต้องเร่งรังวัดใหม่โดยเร็ว โดยจะขอความร่วมมือจากทางเทศบาลตำบลเขมราฐและส่วนงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในขั้นตอนนี้ต่อไป

มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 นายรัฐพงศ์ รุ่งธนศักดิ์ นายอำเภอเขมราฐ ได้มีหนังสือสั่งการให้เทศบาลตำบลเขมราฐ ดำเนินการจัดประชุมสภาเพื่อขอความเห็นชอบและมีมติที่ประชุมในการขอถอนสภาพที่ดินแปลงดังกล่าว พร้อมให้จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของราษฎรผู้เคยใช้ประโยชน์ร่วมกันในที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ ณ บ้านเหนือ หมู่ 1 ตำบลเขมราฐ อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการเรื่องการถอนสภาพที่ดินเป็นไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ศิริลักษณ์ สอนอาจ / ข่าว