ประทับใจ เด็กหญิงวัย 7 ขวบ หอบกล่องวิเศษ ช่วยน้ำท่วมลาวใต้
วันที่ 5 สิงหาคม 2561 เรื่องราวสุดประทับใจ ที่ยังคงพูดถึงกันของเจ้าหน้าที่ ศูนย์รับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแขวงอัตตะปือ สปป.ลาว ณ อาคารเรียนและปฏิบัติการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี คือการที่ เด็กหญิงวัย 7 ขวบ คนหนึ่งเดินอุ้มกล่องกระดาษมาพร้อมคุณแม่ พร้อมกับพูดว่า “หนูให้ .... ช่วยเพื่อน ๆ น้ำท่วมที่ลาว” ซึ่งสร้างความฉงนให้กับเจ้าหน้าที่ว่ามีอะไรอยู่ในกล่อง
“นายกฤษกร ปรัชญอภิบาล” นักวิชาการชุมชน สำนักบริการวิชาการชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ปฏิบัติงานในศูนย์รับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยฯ เล่าว่า เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ตนและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ช่วยกันคัดแยกของบริจาคอยู่นั้น มีเด็กหญิงคนหนึ่งอุ้มกล่องหนึ่งใบมาพร้อมกับคุณแม่ซึ่งนำเสื้อผ้าเด็กเล็กและผ้าอ้อมมาบริจาคที่ศูนย์รับบริจาคฯ แล้วยื่นกล่องดังกล่าวให้กับตน พร้อมบอกว่า “เอามาให้เพื่อช่วยเหลือเพื่อน ๆ ที่ลาวที่บ้านน้ำท่วม” กล่องดังกล่าวเป็นกล่องกระดาษขนาดย่อม ๆ ที่ปิดฝาไว้ ทำให้ตนและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ สงสัย และมามุงดูกันว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวนำอะไรมาบริจาค
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงขอเปิดดูกล่องดังกล่าวอย่างช้า ๆ พบว่าภายในเป็นเงินเหรียญหนึ่งบาท ห้าบาท และสิบบาท ที่บรรจุเรียงในถุงอย่างเป็นระเบียบ ถุงละยี่สิบบาท สี่สิบบาท และห้าสิบบาท รวมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 540 บาท เมื่อสอบถามชื่อจึงรู้ว่า เด็กหญิงดังกล่าว ชื่อ “น้องแป้ง” เด็กหญิงชญานิษฐ์ นันทนากรชัย อายุ 7 ขวบ กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/9 โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี
“คุณอโนชา สุวรรณสาร” คุณแม่ของน้องแป้ง เล่าให้ฟังว่า ช่วงเช้าขณะที่ตนกำลังคัดเสื้อผ้าเด็กและผ้าอ้อมที่ยังมีสภาพดีของน้องแป้ง (บุตรสาว) และน้องปันปัน (บุตรชาย) รวมทั้งเครื่องใช้ของเด็กเล็กอยู่นั้น น้องแป้งเห็น จึงเข้ามาถามว่า “คุณแม่ทำอะไร? จะเอาเสื้อผ้าของแป้งและปันปันไปไหน?” คุณแม่จึงตอบว่า “คุณแม่จะคัดเสื้อผ้าดี ๆ ที่เราไม่จำเป็นได้ใช้แล้ว ไปให้เด็ก ๆ ชาวลาวที่บ้านถูกน้ำท่วม ไม่เหลือเสื้อผ้าใส่” น้องแป้งสงสัยและมีท่าทีสนใจ คุณแม่เลยเปิดภาพสถานการณ์น้ำท่วมในแขวงอัตตะปือและภาพชาวลาวที่ประสบภัยน้ำท่วมจาก facebook ต่าง ๆ ให้น้องแป้งดู แล้วอธิบายว่า “บ้านเขาถูกน้ำท่วม ผู้ใหญ่และเด็ก ๆ ลำบาก ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีเสื้อผ้าใส่ ไม่มีข้าวกิน ทุกอย่างถูกน้ำท่วมหมด” จากนั้นสักพัก น้องแป้งเดินไปหยิบกระปุกออมสินและกล่องกระดาษที่วางอยู่หัวที่นอนมาเทออกมาให้คุณแม่ช่วยนับเหมือนตอนจะไปฝากธนาคาร แล้วพูดว่า “คุณแม่ขา เดือนนี้แป้งขอไม่ฝากธนาคาร แป้งจะเอาให้คนน้ำท่วมไปซื้อข้าวกับเสื้อผ้าค่ะ” น้องแป้งเอาเงินที่เหลือจากที่คุณแม่ให้ไปโรงเรียนแต่ละวันหยอดกระปุกออมสิน แล้วนับรวมเป็นถุง ๆ ไว้ไปฝากธนาคารเกือบทุกเดือน แต่เดือนนี้ขออนุญาตคุณแม่เอาเงินเก็บไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่ลาวแทน คุณแม่ช่วยน้องแป้งนับเงินนำใส่กล่องกระดาษ แล้วรีบพาน้องแป้งมาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ ในช่วงเช้านั้นเลย
คุณครูธิดาภรณ์ ทินบุตร หรือ “ครูนิ่ม” คุณครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/9 โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี กล่าวว่า “น้องแป้ง เป็นเด็กที่มีระเบียบวินัย รับผิดชอบ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมีจิตใจที่งดงาม มักช่วยเหลือเพื่อน ๆ และคุณครูในการทำงานส่วนรวมเสมอ” เมื่อได้รับทราบข่าวก็ชื่นชมยินดีในพฤติกรรมและความมีน้ำใจของนักเรียนของตน
ความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ฐานะ ภูมิลำเนา ถือเป็นสิ่งที่ดีงามที่มนุษย์ทุกคนควรมี อันจะส่งผลดีต่อสัมพันธภาพ ความเข้าอกเข้าใจ และความปรองดองระหว่างกัน หากความมีน้ำใจดังกล่าวเกิดแก่เด็กและเยาวชนในสังคมใดแล้ว ย่อมสามารถรับประกันได้ว่า อนาคตของสังคมนั้นจะอุดมไปด้วยความรักความเข้าใจและปรองดองระหว่างกัน ด้วยการเห็นคุณค่าของเพื่อนมนุษย์ทุกคน
ขอบคุณข้อมูลจาก เชษฐ์ ศรีไมตรี
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี