ว่าที่ครูรัก(ษ์)ถิ่น ม.ราชภัฏอุบลฯ กับชีวิตที่ไม่มีคำว่าปิดเทอม
สำหรับช่วงปิดเทอมใหญ่ที่มีระยะเวลาหลายเดือน หลายคนคงคิดหากิจกรรมสนุก ๆ ทำ บางคนใช้เวลาทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ บางคนก็สนุกไปกับกิจกรรมที่ตัวเองชอบ แต่สำหรับ “แบงค์” เด็กหนุ่มผู้พลัดถิ่นฐานบ้านเกิดจากจังหวัดชัยภูมิ มาตามความใฝ่ฝันที่อยากเป็นครู ได้รับโอกาสเข้าเรียนที่คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ในโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ซึ่งชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะความยากจน เลยต้องเรียนและทำงานควบคู่กันไปเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
“แบงค์” หรือ นายณัฐวุฒิ สนิทวงศ์ เกิดในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ครอบครัวพ่อแม่แยกทางกัน ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น ตนเองจึงอาศัยอยู่กับยายที่เป็นคนส่งเสียเลี้ยงดู ชีวิตครอบครัวค่อนข้างลำบาก ต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำด้วยการรับจ้างเก็บพริก ปลูกมัน ปลูกอ้อย เกี่ยวข้าว เรียกว่าทำทุกอย่างที่ได้เงินมาเลี้ยงดูหลานชายเพียงคนเดียว
ส่วนแบงค์เองก็ดำเนินชีวิตเรียนด้วยทำงานไปด้วยมาตั้งแต่เด็ก พอหลังจากเลิกเรียนหรือวันหยุดก็จะไปรับจ้างทำงานกับยายบ้าง รับจ้างดำนา เกี่ยวหญ้าให้วัว แบกกระสอบข้าว กระสอบปุ๋ย ไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่ในหมู่บ้านหรือหมู่บ้านใกล้เคียงก็รับทำงานทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวอีกทาง
“แบงค์” เล่าให้ฟังว่า ผมเกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ แต่ในความโชคร้ายก็ยังโชคดีที่มียายคอยเลี้ยงดูและอยู่เคียงข้างทุกสถานการณ์ แม้ในวันที่สถานะครอบครัวไม่สู้ดีนัก แต่ก็ทำให้ผมมีกำลังใจและแรงผลักดันที่อยากจะสร้างชีวิตที่ดี ถ้าไม่มียายผมคงไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือจนจบมัธยม
และอีกหนึ่งความโชคดี ผมได้รับการคัดเลือกเข้ารับทุนโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น จากการที่มหาวิทยาลัยได้เข้าร่วมกับโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ของกองทุนเพื่อความเสมอภาค (กสศ.) ที่สร้างโอกาสสำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล เป็นครูรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชนบ้านเกิด ซึ่งคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีลงพื้นที่สำรวจหมู่บ้านของผม
ถ้าไม่ได้รับโอกาสในวันนั้น ผมคงไม่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในวันนี้ ทำให้ผมกลายเป็นคนโชคดีและเติมเต็มความฝันที่อยากจะเป็นครู “ผมอยากขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี มาก ๆ ครับ”
ผมมีความใฝ่ฝันที่อยากเป็น “ครู” มาก ๆ เพราะชอบในการสร้างคน สอนคน บ่มเพาะคนให้เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ และที่สำคัญการได้บรรจุรับราชการครู ก็เป็นความมั่นคงในชีวิตของผมและครอบครัว
เกือบ 4 ปี ที่มาทำตามฝันที่คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ก็อย่างที่กล่าวไว้ครับ “ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ” ถึงแม้ผมจะโชคดีได้รับโอกาสเข้าร่วมโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น แต่ในช่วงระหว่างเรียนก็ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ผมต้องเรียนและทำงานไปด้วยเพื่อหารายได้ส่งตัวเองและเลี้ยงยายที่อายุมากแล้ว ไม่อยากให้ท่านลำบาก
ในช่วงกลางวันผมก็ใช้ชีวิตการเป็นนักศึกษาปกติ เรียนหนังสือ หากพอมีเวลาก็จะทำงานส่งอาจารย์ หรือทำงานกลุ่มกับเพื่อน ๆ ส่วนในช่วงก่อนสอบก็จะแบ่งเวลาในช่วงกลางคืนและเวลาว่างระหว่างเรียนในการอ่านหนังสือ ทบทวนตำราก่อนสอบ
ตอนนี้ผมทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านชาบูชิ โดยใช้เวลาหลังจากเลิกเรียน วันหยุด และช่วงปิดเทอมก็จะทำเต็มเวลา เพื่อหารายได้ในการเรียนหนังสือและส่งให้ยาย ที่ตอนนี้ท่านอายุ 85 ปี ที่มีเพียงรายได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพียงเท่านั้น หากเปรียบเป็นระยะทางแล้วตอนนี้ผมเดินทางมาไกลมาก อีกเพียงแค่ 1 ปี ก็จะเรียนจบ ซึ่งจะได้บรรจุรับราชการ “ครู” ตามความใฝ่ฝันที่ตั้งไว้ ซึ่งผมได้สัญญากับตัวเองและยายเอาไว้ว่า ถ้าเข้ารับราชการแล้ว “ต่อไปผมจะไม่ให้ยายต้องลำบากเลย จะดูแลยายให้ดีที่สุด และจะทำให้ยายมีความสุขมาก ๆ เพราะความสุขของยายก็คือความสุขของผมด้วยครับ”
แบงค์ เล่าต่อว่า ผมไม่มีวันลืมความรู้สึกวันนั้นเลย ไม่ลืมว่าตัวเองรู้สึกดีใจมากขนาดไหนที่ได้รับโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตดีใจที่สุด ๆ อีกอย่างคือ ได้ทำให้ยายภาคภูมิใจในตัวผม “สัญญากับยายไว้ว่าจะตั้งใจเรียน” จบแล้วก็จะตั้งใจเป็นครูที่ดี จะนำความรู้ ประสบการณ์ และทักษะต่าง ๆ ได้เรียนมาไปพัฒนาเด็กนักเรียนให้เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ และผมยังฝันไกลไปถึงอนาคต ถ้าความพยายามและความมุ่งมั่นพัฒนาตัวเอง อนาคต “ผมก็อยากเป็น ผอ.โรงเรียน” ครับ (หัวเราะ)
แม้ต้นทุนชีวิตของผมจะน้อย แต่เมื่อได้รับโอกาสก็จะทำมันให้เต็มที่และดีที่สุด ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง “ถ้าเราบินไม่ได้ ให้วิ่ง ถ้าเดินไม่ได้ ให้คลาน เราทำอะไรต้องมุ่งไปข้างหน้า ความสำเร็จที่ได้มาด้วยความพยายามของตนคือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่สุด” คติประจำใจของแบงค์ “ณัฐวุฒิ สนิทวงศ์” ว่าที่ครูรัก(ษ์)ถิ่น คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
เส้นทางฝันและความสำเร็จของแต่ละคนจะเหมือนหรือแตกต่างกัน แต่ทางสู่ความสำเร็จเราสามารถเรียนรู้แนวทาง วิธีการจากคนที่ประสบความสำเร็จ นำมาปรับใช้เปลี่ยนให้เข้ากับเราเป็นสไตล์ของเราได้ “ทุกบทเรียน คือ ประสบการณ์” ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในบางครั้งอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าใจสู้เสียอย่าง ไม่ว่าอะไรก็ต้องผ่านไปได้ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี “มหาวิทยาลัยแห่งความสุข” เปิดเปิดกว้างสำหรับทุกคน
พงพิทักษ์ อุปไชย
งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี