งานทิ้งกระจาดมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน อุบลฯ คึกคัก
วันที่ 8 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่มูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายจีระชัย ไกรกังวาร นายกเทศมนตรีเมืองวารินชำราบ เป็นประธานเปิดงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2567 โดยมีนายเทียมชัย ประกิตชัยวัฒนา ประธานมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน อ.วารินชำราบ อุบลราชธานี และนายวินัย เหลืองรุ่งโรจน์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ พร้อมกรรมการมูลนิธิฯ ให้การต้อนรับ ซึ่งมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศมารอรับของแจก โดยบางรายเดินทางด้วยรถไฟมาไกลจาก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์
นายวินัย เหลืองรุ่งโรจน์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ กล่าวว่า มูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถาน จัดประเพณีทิ้งกระจาด หรือซิโกว ต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 50 ปีแล้ว เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วและวิญญาณไร้ญาติ ตามประเพณีที่เคยปฏิบัติ
พิธีทิ้งกระจาด หรือเทกระจาด นั้น เป็นพิธีกรรมจีนอย่างหนึ่ง ที่นิยมจัดขึ้นในเทศกาลต่างๆ ของชาวจีน หรือเรียกกันว่า ซิโกว ซึ่งเป็นประเพณีที่เปิดโอกาสให้ลูกหลานได้ทำบุญใหญ่ และถึงตรงแด่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และสัมภเวสีไร้ญาติทั้งหลาย เชื่อกันว่า ในเดือนเจ็ดนี้ เป็นช่วงที่ประตูนรกเปิด เพื่อให้ดวงวิญญาณทั้งที่มีญาติและไม่มีญาติ ได้มาเยือนโลกมนุษย์ เพื่อมาเยี่ยมลูกหลาน (สำหรับพวกที่มี) และเพื่อขอส่วนบุญ (สำหรับพวกที่ไร้ญาติ)
สำหรับพิธีกรรมนั้น จะเริ่มจากอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสวดมนต์ เวียนธูป บางที่ 7 วัน บางที่ 3 วัน จนถึงวันสุดท้าย เป็นพิธีโปรดสัตว์ และเผากระดาษเซ่นไหว้ ซึ่งพับเป็นภูเขาเงิน ภูเขาทอง ให้แก่บรรพบุรุษผู้ล่วงลับและดวงวิญญาณไร้ญาติด้วย
สำหรับปีนี้ ทางมูลนิธิได้เตรียมข้าวสารคนละ 5 กิโลกรัม น้ำปลา น้ำมันพืช น้ำตาล และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมกว่า 3,000 ชุด ไว้แจกจ่ายให้ประชาชนทุกคนที่มาร่วมงาน ซึ่งจะแจกให้เป็นรายคนเลย ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และคนพิการ ทุกคนจะได้รับคนละ 1 ชุด โดยในงานจะมีอาสาสมัครของมูลนิธิมาคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเวียนกลับมารับของแจกซ้ำ ทางมูลนิธิฯ ได้ให้ผู้รับของแจกแล้วเอานิ้วจุ่มหมึกแดงเพื่อเป็นสัญญลักษณ์ด้วย
นอกจากนี้ หากประชาชนที่มารับของแจกเกินจำนวนสิ่งของที่เตรียมไว้ ทางมูลนิธิฯ ยังได้เตรียมเงินสดไว้ให้ประชาชนที่ไม่ได้รับสิ่งของ จึงมั่นใจได้ว่า ผู้ที่มารอรับแจกข้าวสารอาหารแห้ง จะได้รับแจกทานจนครบทุกคน ไม่มีตกหล่นแน่นอน
ด้านนางทิน สระแก้ว อายุ 85 ปี ชาวอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในผู้มารับสิ่งของในงานทิ้งกระจาดเผยว่า ตนและญาติๆและคนในหมู่บ้านประมาณ 10 คน เดินทางด้วยรถไฟชั้น3 จากอำเภอลำปลายมาศเพื่อมารับของแจกทุกปี เพราะของที่ได้สามารถใช้ประกอบอาหารและช่วยประหยัดค่ายังชีพในครอบครัวได้ไปอีกหลายวัน ในยุคข้าวยากหมากแพงนี้