นายกฯ แอน เรียนต่อ ป.โท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ม.อุบลฯ
วันที่ 2 สิงหาคม 2558 ณ ห้องประชุมศรีเมืองใหม่ ชั้น 3 สำนักงานอธิการบดี (หลังใหม่) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สำนักงานบริหารบัณฑิตศึกษา จัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ระดับบัณฑิตศึกษา ภาคการศึกษาต้น ประจำปีการศึกษา 2558 โดยมี นายอัมพล พันธ์วงศ์ ผู้อำนวยการกองบริการการศึกษา กล่าวต้อนรับ พร้อมบรรยาย “เรียนระดับบัณฑิตศึกษาอย่างไร ให้ประสบความสำเร็จ” โดยมีนักศึกษาใหม่ ภาคต้น ปีการศึกษา 2558 เข้าร่วมจำนวน 130 คน แบ่งเป็นปริญญาโท 102 คน ปริญญาเอก 28 คน ในจำนวนนี้ มีนักการเมืองท้องถิ่น นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เข้าศึกษาในคณะรัฐศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ด้วย
นายอัมพล พันธ์วงศ์ ผู้อำนวยการกองบริการการศึกษา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้จัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามาตั้งแต่ปีการศึกษา 2543 ใน 2 สาขาวิชา ในปีการศึกษา 2558 นี้ นับว่าได้มีการจัดการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษามาเป็นปีที่ 16 แล้ว คณะ/สาขาวิชาจึงได้เปิดการเรียนการสอนเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน สังคมชุมชนท้องถิ่น โดยในปีการศึกษา 2558 มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้เปิดรับระดับบัณฑิตศึกษาจำนวน 38 หลักสูตร โดยแยกเป็นระดับปริญญาโท 26 หลักสูตร และระดับปริญญาเอก 12 หลักสูตร มีทั้งหลักสูตรเรียนในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ รวมนักศึกษาใหม่ ภาคต้น ปีการศึกษา 2558 มีจำนวน 130 คน
ในส่วนของงานปฐมนิเทศในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 กิจกรรม คือ ช่วงเช้า จะเป็นการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ แนะนำข้อมูลการให้บริการเกี่ยวกับการเรียนการสอน และระบบการจัดการศึกษาหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบ ข้อบังคับและแนวปฏิบัติต่างๆ เพื่อใช้ในการเรียนการสอน แนะนำผู้บริหาร คณาจารย์ผู้สอน ตลอดจนบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงาน ที่ช่วยสนับสนุนการเรียนการสอน อาทิ สำนักวิทยบริการ สำนักคอมพิวเตอร์และเครือข่าย ส่วนภาคบ่ายจะเป็นกิจกรรมการขึ้นทะเบียนนักศึกษา ลงทะเบียนเรียนและการสืบค้นข้อมูลผ่านสื่ออิเลคทรอนิกส์
ด้าน นายกฯแอน สมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี กล่าวความรู้สึกว่า รู้สึกภาคภูมิที่ได้เข้ามาศึกษาในสถาบันแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถาบันที่มีมาตรฐานด้านการศึกษา อีกทั้งตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี สะดวกในการเดินทาง ซึ่งตนตั้งใจอยากศึกษาในด้านสาขารัฐประศาสนศาสตร์ ที่คณะรัฐศาสตร์ เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับสายอาชีพด้านการเมืองการปกครอง สามารถบูรณาการความรู้ที่ศึกษานำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยในการพัฒนางานและพัฒนาบุคคล ทั้งวิชาการและวิชาชีพนำมาช่วยเหลือสังคม ชุมชน ท้องถิ่นต่อไป