รพ.สรรพสิทธิ์ อุบลฯ เจ๋ง!! ใส่ลิ้นหัวใจเทียม ไม่ต้องผ่าตัด
วันที่ 1 สิงหาคม 2560 โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จัดงานแถลงข่าวความสำเร็จใน “โครงการรักษาผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติคตีบ โดยวิธีใส่ลิ้นหัวใจเอออร์ติคเทียม ผ่านสายสวนหัวใจ : Transcatheter Aortic Valve Implantation (TAVI)” ณ ห้องประชุม 3 ชั้น 6 อาคาร 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ ซึ่งถือเป็นนวตกรรมทางการแพทย์ของ ทีมแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ที่สามารถเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติคเทียมผ่านสายสวนหัวใจให้กับผู้ป่วยได้สำเร็จ เป็นรายแรกของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
รศ.คลินิก พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่10 กล่าวว่า จากแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้านสาธารณสุข และนโยบายสาธารณสุข 4.0 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านบริการที่เป็นเลิศ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรม เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงใกล้บ้าน ลดวันนอนโรงพยาบาล และลดระยะเวลารอคอย โดยมีเป้าหมายการพัฒนาสูงสุด คือ ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน เขตสุขภาพที่ 10 ซึ่งมีโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ได้มีการพัฒนางานบริการด้านโรคหัวใจมาโดยตลอด การรักษาผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติคตีบ โดยวิธีใส่ลิ้นหัวใจเอออร์ติคเทียม ผ่านสายสวนหัวใจ โดยไม่ต้องผ่าตัด ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมการรักษาที่เกิดขึ้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมกับการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ ซึ่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ สามารถรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีนี้ได้สำเร็จเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
นายแพทย์ชลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า สำหรับงานด้านการรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งด้านการพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากร พัฒนาขีดความสามารถด้านการวินิจฉัย การรักษา พัฒนาและจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญ รวมถึงพัฒนาสถานที่ให้มีความเหมาะสม จนถึงปัจจุบันสามารถตั้งเป็นศูนย์เฉพาะทางโรคหัวใจ มีแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจ ประกอบด้วย อายุรแพทย์โรคหัวใจ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก กุมารแพทย์โรคหัวใจ วิสัญญีแพทย์โรคหัวใจ รวมทั้งบุคลากรสหวิชาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญ การรักษาโรคลิ้นหัวใจตีบโดยโดยวิธีใส่ลิ้นหัวใจเอออร์ติคเทียมผ่านสายสวนหัวใจ โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีส่วนได้ช่วยเหลือให้ประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคนี้ในภูมิภาค ไม่ต้องเดินทางไปรักษาในสถานที่ไกลๆ เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น สามารถทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์เฉพาะทางได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายแพทย์วรวุฒิ ทัศนาวิวัฒน์ อายุรแพทย์โรคหัวใจและผู้รับผิดชอบโครงการ TAVI โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า ภาวะลิ้นหัวใจเอออร์ติคตีบ พบได้ในผู้สูงอายุ ซึ่งสาเหตุเกิดจากความเสื่อมสภาพและมีหินปูนมาเกาะ ทำให้การเปิดปิดของลิ้นหัวใจมีความผิดปกติ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก เป็นลมหมดสติ เหนื่อยมากและมีหัวใจวาย ในส่วนของการรักษานั้นเป็นที่ยอมรับว่า การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเป็นการรักษาที่ดีที่สุด แต่พบว่ามีผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ ไม่สามารถรับการรักษาโดยการผ่าตัดด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น อายุมากหรือมีโรคอื่นๆ ร่วมด้วยหลายโรค ทำให้มีความเสี่ยงต่อการผ่าตัดสูง
การเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติคผ่านสายสวนโดยไม่ต้องผ่าตัด จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัด โดยทั่วไปการรักษาวิธีนี้จะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งระยะเวลาสั้นกว่าการผ่าตัดเปิดหน้าอก วิธีการนี้ผู้ป่วยจะมีเพียงแผลเล็ก ๆ บริเวณขาหนีบ ทั้ง 2 ข้าง ทำให้การพักฟื้นเร็วโดยประมาณ 2 -3 วันก็สามารถกลับบ้านได้ สำหรับผู้ป่วยรายแรกที่ได้รับการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมเอออร์ติค เป็นหญิงอายุ 77 ปี ซึ่งหลังจากการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติคเทียมผ่านทางสายสวนแล้ว ผู้ป่วยสามารถเดินได้ใน 2 วัน สามารถทำกิจวัตรประจำวันและเดินขึ้นลงบันไดได้โดยไม่ต้องพัก ภายใน 1 สัปดาห์ แสดงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งของผู้ป่วยและญาติหลังรับการรักษา
ข่าว : โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
เนื่องจาก โครงการรักษาผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอออร์ติคตีบ โดยวิธีใส่ลิ้นหัวใจเอออร์ติคเทียม ผ่านสายสวนหัวใจ : Transcatheter Aortic Valve Implantation (TAVI) นี้ มีค่าใช้จ่ายมาก ทั้งเครื่องมือทางการแพทย์ และอุปกรณ์ลิ้นหัวใจเอออร์ติคเทียม ทางโรงพยาบาลได้รับเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว จากภาคเอกชน ดังนี้
คุณอดิศักดิ์-คุณนาตยา ตั้งมิตรประชา ในนามบริษัท ดูโฮม จำกัด บริจาค 4,050,000 บาท
คุณสุจินต์ ไชยสงคราม ในนามบริษัท ยงสวัสดิ์อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด บริจาค 500,000 บาท
คุณมลิวัลย์ ไชยสงคราม ในนามบริษัท ยงสงวนกรุ๊ป บริจาค 300,000 บาท
นอกจากนี้ คุณอดิศักดิ์-คุณนาตยา ตั้งมิตรประชา ยังบริจาคเงินสมทบ ซื้อเครื่องสวนหัวใจ อีกเป็นจำนวนเงิน 10,000,000 บาท