ชีวิตของเด็กสาวที่ต้องเติบโตมากับครอบครัวคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ตั้งแต่เธออายุเพียง 7 ขวบ เนื่องจากคุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกัน ทำให้ชีวิตในวัยเด็กของเธอไม่สะดวกสบายนัก ทั้งสภาพเศรษฐกิจของครอบครัว และคำดูถูกจากคนรอบข้าง อย่างไรก็ตาม เธอใช้พลังบวกที่มี ต่อสู้กับชีวิต ทำงานหารายได้พิเศษสารพัด เพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ เรียนจนจบปริญญาตรี และที่สำคัญ เธอก้าวเข้าไปเป็นผู้เข้าประกวดเวทีนางสาวไทย ปีล่าสุด พ.ศ.2563 น้องมีน น.ส.ปฏิมาภรณ์ ขยันชม MT26

ไกด์อุบลภูมิใจที่มีโอกาสได้สัมภาษณ์เด็กผู้หญิงคนนี้ "น้องมีน" น.ส.ปฏิมาภรณ์ ขยันชม เธอเล่าว่า ชีวิตในวัยเด็ก ก็มีความสุขตามประสา เหมือนเด็กทั่วไป คุณพ่อเป็นครู คุณแม่เป็นแม่ค้า แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเธออายุ 7 ขวบ คุณพ่อกับคุณแม่ตัดสินใจแยกทางกัน ตอนนั้นต้องย้ายโรงเรียนไปมาถึง 3 ครั้ง เนื่องจากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าเธอและน้องจะต้องอยู่กับใคร ไปไหนใครๆ ก็ล้อว่าลูกไม่มีพ่อ

"เคยโดนครูถามบ่อยๆ ว่าลูกไม่มีพ่อ คำนี้มันทิ่มใจมาก จำได้ทุกโมเม้นต์ ทุกความรู้สึก เข้าใจว่ามันคือปัญหาของผู้ใหญ่ เราเคารพการตัดสินใจของพ่อกับแม่"

ในที่สุดมีนและน้องสาวก็ได้อยู่กับแม่ ซึ่งเป็นช่วงที่ชีวิตยากลำบากมาก เนื่องจากคุณแม่กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องค้าขายหาเงินเลี้ยงลูกถึง 2 คน ถึงแม้ว่าแม่จะทำงานทุกอย่าง ทั้งค้าขาย รับจ้าง แต่ก็ไม่สบายซักที เพราะหนี้สินเยอะ เนื่องจากรายรับน้อยกว่ารายจ่าย โดนคำพูดต่างๆ เข้ามาตลอดว่า เป็นเด็กมีปัญหา เป็นเด็กมีปมด้อย เด็กเก็บกดพ่อแม่เลิกกัน ฯลฯ แต่มีนไม่เคยโกรธเลย มีนเก็บและจำทุกคำพูดเพื่อจะใช้สิ่งนี้เตือนใจและผลักดันตัวเองให้เป็นคนที่เก่ง เป็นคนที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของทุกคน

ช่วงที่ น้องมีน น.ส.ปฏิมาภรณ์ ขยันชม เรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนนารีนุกูล ก็พยายามทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เช่น เป็นเชียร์ลีดเดอร์กีฬาสีทุกปี แต่มรสุมชีวิตก็เข้ามาอีกครั้งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ตอนอยู่ ม.6 ทางบ้านมีหนี้สินเยอะมาก จนเธอตัดสินใจหางานพิเศษทำ เริ่มจากไปสมัครเป็นไปสต๊าฟในงานประกวดมิสแกรนด์อุบลราชธานี จุดลงทะเบียนได้เงินมา 500 บาท ตอนนั้นดีใจมาก

มีนเห็นแม่ลำบากก็ไม่อยากจะอยู่เฉยๆ ก็เลยเริ่มรื้อเสื้อผ้าเก่าที่บ้านออกมาขาย โพสต์ขายใน Facebook ก็ตอนนั้นก็ได้รายได้อยู่ประมาณ 700 ถึง 1,000 บาท แล้วก็ได้ลงทุนขายครีม ได้เงินทุนมาจากพ่อ ซึ่งขายดีมาก ทำให้มีเงินเก็บเป็นค่าใช้จ่ายในการยืนยันสิทธิ์เข้ามหาวิทยาลัยได้

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นอกจากจะต้องกู้ยืมเงินเรียนจาก กยส. แล้ว เธอยังต้องหารายได้พิเศษทุกทาง ทั้งขายน้ำหอม ขายถั่วกรอบแก้ว โดนัท สาหร่ายอบกรอบ อาศัยการขายที่หอบของเข้าไปขายในคลาสเรียน หรือโพสต์ผ่านอินสตราแกรมและเฟสบุ้ค บางครั้งก็เอาน้ำหอมไปตั้งร้านขายที่ตลาดเจริญศรี ตลาด ม.อุบล จนตอนนี้ได้ทำเป็นร้านขนมในไอจีชื่อ Cher.homemade ขายบราวนี่และเค้กหน้านิ่ม และทำงานฟรีแลนซ์ต่างๆ เช่น เป็นผู้ประกาศข่าวช่อง NBT UBON ได้เล่นโฆษณา เป็นนางเอกMV ฯลฯ ใช้รายได้เป็นทุนเรียนมาตลอดเวลา 4 ปี

น้องมีน น.ส.ปฏิมาภรณ์ ขยันชม สำเร็จการศึกษาเป็นว่าที่บัณฑิต รุ่นที่ 29 ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาภาษาไทยและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งจะมีพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร บัณฑิตปีการศึกษา 2562 ในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา เธอบอกว่าตนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้สวมใส่ชุดครุยวิทยฐานะที่มาจากหยาดเหงื่อของแม่ และความมุ่งมั่นของตน นับเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลเป็นอย่างยิ่ง

ที่มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีนี้เอง ทำให้เธอก้าวเข้ามาสู้เส้นทางการประกวดนางงาม เมื่อได้เป็นดาวคณะศิลปศาสตร์ และดาวมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปี 2559 หลังจากนั้นก็เลยมีโอกาสเริ่มประกวดงานนางนพมาศ เทพีสงกรานต์ ธิดากาชาด ก็ได้รางวัลชนะเลิศมาตลอด จนได้ตัดสินใจสมัครประกวดไทยซุปเปอร์โมเดลของช่อง 7HD เวทีนางแบบระดับประเทศ ฝ่าฟันจากผู้เข้าประกวดกว่า 600 คน จนติด Top 10 Thai supermodel 2018 จากนั้นจึงสมัครประกวด Miss universe thailand 2018 ได้เข้ารอบ 40 คนสุดท้าย

เวทีประกวดนางงาม ได้ทั้งประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ ได้เห็นเบื้องหลังของการทำงานที่เราเคยดูแค่ในทีวี ได้กินของอร่อยที่ไม่เคยได้กิน ได้นอนพักโรงแรมหรู ได้เดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้ของฝากจากสปอนเซอร์กลับบ้านไปเยอะมาก ที่สำคัญ ได้ออกทีวีให้คนที่บ้านดูด้วย เพราะเรารู้สึกว่าเขามีความสุขเวลาเห็นลูกหลานเขาบนจอทีวี เราก็มีความสุขตามไปด้วย 

ล่าสุด น้องมีน น.ส.ปฏิมาภรณ์ ขยันชม สมัครเข้าประกวดเวทีนางงามระดับประเทศอีกครั้ง ในการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2563 โดยผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้ายเป็นผลสำเร็จ ได้หมายเลข MT26 ขณะนี้กำลังเก็บตัวอยู่กับกองประกวด และจะมีการประกวดรอบ Preliminary ในวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2563 รอบตัดสิน Final วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2563 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดเชียงใหม่

"การประกวดนางงาม มันทำให้มีนโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ได้รู้จักผู้คนมากหน้าหลายตาที่เข้ามา เรียนรู้การใช้ชีวิตว่าเป็นยังไง การเข้าสังคม สิ่งเหล่านี้ทำมีนไม่อยากหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง มีนอยากเป็นผู้หญิงที่เก่งมากขึ้น สวยมากขึ้น ฉลาดมากขึ้น และที่สำคัญ สามารถดูแลครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสร้างแรงบันดาลให้ผู้หญิงอีกหลายๆ คน" น้องมีน กล่าวส่งท้ายกับไกด์อุบล

ร่วมส่งกำลังใจให้ น้องมีน ปฏิมาภรณ์ ขยันชม ให้ผ่านเข้ารอบไปยืนรอมง...เป็น 16 คนสุดท้าย บนเวทีนางสาวไทย ประจำปี 2563 ในรอบตัดสิน ด้วยการโหวตง่ายๆ
>> พิมพ์ข้อความ MT26
>> ส่ง SMS มาที่ 4806999
>> แล้วกดโทรออก
เริ่มตั้งแต่วันนี้ ถึง 12 ธันวาคม 2563 เวลา 18.00 น.