อุบลฯ เปิดตัวโครงการ “ SAME DAY ART รู้เร็ว รักษาเร็ว ที่แรกในไทย
วันที่ 15 มิถุนายน 2561 จังหวัดอุบลราชธานี เปิดตัวโครงการ “ SAME DAY ART รู้เร็ว รักษาเร็ว ยุติเอดส์ ” มุ่งหวังลดการติดเชื้อรายใหม่ และลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทำให้จังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดแรกในประเทศไทย ที่ได้ดำเนินงานตามโครงการ“ SAME DAY ART รู้เร็วรักษาเร็ว”
นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวง เขตที่ 10 อุบลราชธานี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายที่จะยุติปัญหาเอดส์ ในประเทศไทย ภายในปี 2573 มีเป้าหมายลดการติดเชื้อรายใหม่ไม่เกิน 1,000 ราย/ปี ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ปีละไม่เกิน 4,000 ราย ลดการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเชื้อเอชไอวี ร้อยละ 90 ทั้งนี้ การดำเนินงานที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ต้องมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน โดยเฉพาะลดการติดเชื้อรายใหม่และลดการเสียชีวิต ต้องพยายามที่จะสื่อสารกับประชาชน ที่คิดว่าเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี เข้ามารับบริการตรวจและรักษาให้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นบริการที่ให้ฟรีกับประชาชนคนไทยทุกคน
การที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้กำหนดแนวทางและเปิดตัวโครงการ SAME DAY ART รู้เร็วรักษาเร็ว ยุติเอดส์ ที่เปิดให้บริการกับพี่น้องประชาชน จะได้เป็นรูปแบบการดำเนินงานให้กับจังหวัดต่างๆ ในเขตสุขภาพที่ 10 ซึ่งจะได้มีการขยายการให้บริการซึ่งภายในทรัพยากรของโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลอำเภอ อันจะเอื้อต่อการจัดระบบบริการให้กับประชาชนได้เหมือนกับจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อที่จะให้เขตสุขภาพที่ 10 เป็นเขตสุขภาพที่จะก้าวสู่การยุติเอดส์ต่อไป
นายจิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า โครงการ SAME DAY ART รู้เร็วรักษาเร็ว เป็นกระบวนการรักษาด้วยยาต้านไวรัส สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้ที่เคยทราบผลการติดเชื้อเอชไอวีมาก่อน ภายในวันเดียว กับวันที่ตรวจพบการติดเชื้อเอชไอวี หรือวันที่ผู้ติดเชื้อเข้ามารับบริการ หรือผู้ที่เคยทราบผลการติดเชื้อเอชไอวี มาก่อนแล้ว รับยาภายใน 72 ชั่วโมง หากไม่สามารถเริ่มกระบวนการให้ยาภายในวันเดียว โดยมีข้อดีต่อระบบสาธารณสุข ของการสามารถเริ่มยาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดระดับเชื้อเอชไอวีในผู้ติดเชื้อ ซึ่งจะนำไปสู่การลดการแพร่เชื้อเอชไอวีไปยังคู่นอน และลดอัตราการติดเชื้อรายใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี จะเป็นจังหวัดนำร่องที่จะสามารถยุติเอดส์ภายในปี 2563 มีเป้าหมายที่จะลดการติดเชื้อรายใหม่ไม่เกิน 32 ราย และมีผู้เสียชีวิตเอดส์ไม่เกิน 197 ราย ในปี 2563
ทั้งนี้ จากข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ในจังหวัดอุบลราชธานี นับตั้งแต่ที่มีรายงานพบผู้ป่วยเอดส์คนแรกในจังหวัดอุบลราชธานีเมื่อปี 2533 จนถึงปัจจุบัน พบว่า มีผู้ติดเชื้อขึ้นทะเบียนเพื่อการรักษาทั้งสิ้น 10,341 ราย เสียชีวิต 2,760 ราย คิดเป็นร้อยละ 26.68 โดยมีผู้ติดเชื้อขึ้นทะเบียนเพื่อการรักษาที่ยังมีชีวิตอยู่ จำนวน 7,581 ราย คิดเป็นร้อยละ 73.31 ( จัดเป็นกลุ่มกำลังรักษาด้วยยาต้านไวรัส 6,859 ราย ร้อยละ 90.47 และกลุ่มที่ยังไม่พร้อมรับยาต้านไวรัส 722 ราย (ร้อยละ 9.52 ) การเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์มีอัตราค่อนข้างสูง
ดังนั้น เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานไปสู่การยุติเอดส์ของจังหวัด จึงได้กำหนดให้มีการดำเนินงาน โครงการSAME DAY ARTหรือรู้เร็วรักษาเร็วยุติเอดส์ขึ้น เพื่อต้องการให้ประชาชนผู้มารับบริการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ได้ทราบสถานะการติดเชื้อและได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ ภายในวันนั้นหรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังต้องการให้ผู้ติดเชื้อได้รับการดูแลรักษาที่รวดเร็ว มีคุณภาพชีวิตที่ดี เหมือนบุคคลทั่วไป ลดการแพร่เชื้อเอชไอวีไปสู่บุคคลอื่น รวมทั้งเป็นการเพิ่มสัดส่วนการได้รับยาต้านไวรัสมากขึ้น และลดอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์
รูปแบบการให้บริการจะเริ่มโครงการนี้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 เป็นต้นไป ในโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดแรกในประเทศไทย ที่นำโครงการ SAME DAY ART มาใช้กับผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี มีโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เป็นแม่ข่ายในการให้การปรึกษาแก่โรงพยาบาลทั้ง 25 แห่งในจังหวัดอุบลราชธานี มีรูปแบบการให้บริการในจังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ผู้มารับบริการดังนี้
1 ) การให้การให้บริการปรึกษาเรื่องเอชไอวีเอดส์
2 ) การคัดกรองการตรวจซักประวัติอาการการเจ็บป่วยเพื่อประเมินสภาวะสุขภาพ
3 ) การได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน การรักษาผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี
4 ) การพิจารณาให้ยาต้านไวรัสเอดส์ ภายในวันนั้น
กรณีผู้มารับบริการที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และมีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ที่ไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคคิดเชื้อฉวยโอกาส และสำหรับกรณีผู้มารับบริการในโรงพยาบาลอำเภอ ที่มีผลการคัดกรองและซักประวัติการเจ็บป่วย แล้วไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น วัณโรค, เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ส่วนบุคคลใดที่มีผลการคัดกรองการซักประวัติการเจ็บป่วย และมีภาวะเสี่ยงจะให้รอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการในวันรุ่งขึ้น จึงพิจารณาการให้ยาต้านไวรัส ทั้งนี้สามารถมารับบริการด้านสุขภาพอนามัยที่หน่วยงานสาธารณสุข โดยเฉพาะโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์และโรงพยาบาลอำเภอทุกแห่ง