วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ที่อนุสาวรีย์แห่งความดี บริเวณทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายวิรุจ วิชัยบุญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา ในงานวันรำลึกแห่งความดีชาวอุบลราชธานี ประจำปี 2563 โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มูลนิธิ องค์กรอาสาสมัคร องค์กรการกุศลทหารผ่านศึกทุกสมรภูมิ โดยเฉพาะผู้แทนชาวต่างชาติชาวจาก 19 ชาติ ร่วมในพิธี

การจัดงานวันรำลึกแห่งความดีชาวอุบลราชธานี ปี 2563 นี้ เป็นการจัดงานปีที่ 15 ติดต่อกัน เพื่อเป็นการขอบคุณ และรําลึกถึงคุณงามความดีของชาวอุบลราชธานี ที่มีส่วนให้การช่วยเหลือทหารฝ่ายสัมพันธมิตรที่ถูกจับให้เป็นเฉลยศึกสงครามที่อุบลราชธานี เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี ค.ศ.1945 โดยกำหนดให้วันที่ 11 เดือน 11 เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเวลาของการจัดงาน 

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีเชิญธงชาติฝ่ายสัมพันธมิตร 19 ชาติ ขึ้นสู่ยอดเสา พิธีวางพวงมาลา  เป่าแตรเดี่ยว แตรนอน ยืนสงบนิ่ง 2 นาทีเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้วายชนม์ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การจุดคบไฟรำลึกถึงวีรชน ผู้แทนชาวต่างชาติกล่าวขอบคุณชาวอุบลราชธานี ผู้มีพระคุณต่อเชลยศึกพร้อมแสดงความขอบคุณต่อตัวแทนชาวอุบลราชธานีทายาทคุณยายไหล สิริโสตถ์ และการร่วมร้องเพลงสามัคคีชุมนุม หรือเพลง Auld Lang Syne ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

Mr. Mike Chapman ผู้แทนชาวต่างชาติ กล่าวว่า วันนี้ พวกเราและประชาชนทั่วโลก จะได้ประกอบพิธีรำลึกถึงความดีพร้อมเพรียงกัน ในวันที่ 11 เดือน 11 เวลา 11 นาฬิกา โดยที่จังหวัดอุบลราชธานีนี้ เราขอขอบคุณชาวอุบลฯ ที่ได้ช่วยเหลือเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

พิธีรำลึกเช่นนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกที่กรุงลอนดอน ในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2462 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการครบรอบการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 และปีนี้ถือเป็นการครบรอบ 75 ปี การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

เราอยากกล่าวขอบคุณชาวอุบลฯ ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณย่าไหล สิริโสตร์ วีรสตรีแห่งคุณงามความดีที่ชาวต่างชาติยกย่อง เป็นบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เชลยศึกมากกว่า 3,000 คน ทั้งชาวดัตช์ (เนเธอแลนด์) ชาวอังกฤษ ชาวออสเตรเลีย และชาวอเมริกัน ถูกเกณฑ์มาสร้างสนามบินที่บ้านหนองไผ่ และถูกคุมขังอยู่ในค่ายเชลยศึกของทหารญี่ปุ่น ด้วยความเมตตา ความมีมนุษยธรรม และความกล้าหาญของชาวอุบลราชธานี ในการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว เป็นสิ่งที่ทำให้เชลยศึกซาบซึ้งใจ จึงได้สร้างอนุสาวรีย์แห่งความดีนี้ขึ้นมา เพื่อแสดงความขอบคุณ

We will remember them.