วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 07.00 น. นางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ร่วมพิธีอัญเชิญปึงเถ่ากงม่าและเทพเจ้าออกชมเมือง ประสาทพรแก่สาธุชน และร่วมขบวนแห่มังกรมงคลในเฉลิมฉลองศาลเจ้าพุทธก๋ง ครบรอบ 164 ปี

ในการนี้ได้รับเกียรติจากนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมนายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอุบลราชธานี เขต 1 นายสุรพล ฐานานุศักดิ์ ผู้ปกครองศาลเจ้า นางมลิวัลย์ ไชยสงคราม ประธานจัดงานเฉลิมฉลองศาลเจ้าพุทธก๋ง ครบรอบ 164 ปี และมีประธานและคณะกรรมการองค์กร 24 องค์กร สมาชิกสภาเทศบาลนครอุบลฯ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน สาธุชนร่วมพิธีอัญเชิญปึงเถ่ากงม่าและเทพเจ้าออกชมเมือง และขบวนแห่มังกรสักการะศาลหลักเมืองอุบล และแห่รอบเมืองอุบลเพื่อประสาทพรให้แก่สาธุชน

งานเฉลิมฉลองศาลเจ้าพุทธก๋ง ครบรอบ 164 ปี จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2567 มีกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ การแสดงงิ้วแต้จิ๋ว งิ้วพากษ์ไทย งิ้วเปลี่ยนหน้ากาก กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมจีน และโรงทานแจกอาหารมากมาย ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

ศาลเจ้าพุทธก๋ง ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 122 ถนนพรหมเทพ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำมูล ติดกับอุบลวาณิชย์สมาคม สันนิษฐานว่า สร้างเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2403 โดยกลุ่มชาวจีน 4 สายตระกูลที่มีฐานะเป็นเจ้าภาษีนายอากรและคหบดี ได้แก่ ศรีธัญรัตน์ โกศัลวิทย์ โกศัลวัฒน์ และสุรพัฒน์ อธิบายว่า เมื่อเดินทางมายังเมืองอุบลราชธานี ก็ได้พบศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ก่อนหน้านี้มาอย่างยาวนานแล้ว

ศาลเจ้าพุทธก๋ง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนรุ่นแรกที่เข้ามาตั้งรกรากในเมืองอุบลราชธานี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2403 อย่างไรก็ตาม คำบอกเล่ากล่าวว่ามีกลุ่มชาติพันธุ์จีนเข้าม่าอยู่เมืองอุบลราชธานีก่อนหน้านี้นานแล้ว ศาลเจ้าตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูลฝั่งเมืองอุบล ฯ เดิมศาลเจ้ามีขนาดเล็กและเตี้ยมาก สร้างด้วยอิฐก้อนและหลังดามุงหญ้าดา ต่อมาเปลี่ยนเป็นมุงด้วยสังกะสี มีประตูเข้าด้านเดียว แบ่งออกเป็น 3 ห้อง (1) กวนอู (2) ปีงเถ่ากงม่า (3) อ้วนเอี๊ย

ต่อมาหลวงกากูล (กุย โกศัลวัฒน์) ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองจีน จึงได้นำเอาพุทธก๋ง พุทธมา และซำอ่วนเอี้ยนกลับมาด้วย ช่วงปี พ.ศ.2461-2462 ได้ว่าจ้างช่างกวางตุ้งชื่อเชย สร้างอาคารหลังใหม่ตราบเท่าทุกวันนี้

ศาลเจ้าพุทธก๋ง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ลูกหลานได้มากราบไหว้ เพื่อขอพรและเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งทุกปีจะมีการจัดแสดงงิ้ว 10 วัน 10 คืนเพื่อถวายแก่อากง อาม่า และเปิดให้เข้าชมฟรี โดยคนส่วนใหญ่ที่มาศาลเจ้าแห่งนี้ มักจะขอพรให้การงานก้าวหน้า ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ และครอบครัวร่มเย็นเป็นสุข