วันที่ 14 มกราคม 2567 ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เมตตาเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พระครูสมุห์ทองชัย ปญฺญาธโร เจ้าอาวาสวัดสารพัดนึก พระเถรานุเถระ ร่วมพิธี โดยมี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีวางศิลาฤกษ์อุโบสถ วัดสารพัฒนึก ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี

วัดสารพัฒนึก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง อุบลราชธานี ทรงสร้างโดย พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่น สรรพสิทธิประสงค์ เมื่อพุทธศักราช 2436 โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปีพุทธศักราช 2440 เดิมมีอุโบสถและศาลาการเปรียญที่ใช้ทำสังฆกรรมของพระสงฆ์ ซึ่งศาลาหลังเก่าได้ก่อสร้างไว้เป็นระยะเวลาหลายสิบปี จึงมีสภาพชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา

ต่อมา เจ้าอาวาสวัดสารพัฒนึกรูปปัจจุบัน ได้นำดำริเดิมของอดีตท่านเจ้าอาวาส ร่วมกับคณะสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา คุ้มวัด ประชุมปรึกษาหารือกัน สานต่อโครงการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น

โดยอุโบสถหลังใหม่นี้ จะได้ขยายให้กว้างขวางและสะดวกต่อสังฆกิจ และสังฆกรรมของพระสงฆ์ พร้อมทั้งปรับรูปแบบการก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา เป็นอุโบสถ 2 ชั้น มีระเบียงล้อมรอบ กว้้าง 26.70 เมตร ยาว 56.70 เมตร สูงจากพื้นถึงยอด 29.10 เมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างราว 50 ล้านบาท คาดว่าใช้เวลาประมาณ 15 ปี จึงจะก่อสร้างแล้วเสร็จ เพื่อพระภิกษุสงฆ์จะได้ประกอบสังฆกรรมในภายภาคหน้าต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ศาลาการเปรียญหลังเดิมซึ่งวัดสารพัฒนึกใช้เป็นอุโบสถประกอบพิธีกรรมสงฆ์ ซึ่งได้ทำการรื้อถอนเมื่อวันที่ 9 ธันวสาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น จากการรื้อถอนพบศิลาจารึก กว้าง 38 ซม. ยาว 75 ซม. หนา 24 ซม. อยู่ใต้ฐานอุโบสถ จารึกอักษรไทย 4 บรรทัด ความว่า “พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์ สร้างอารามนามสารพัดนึก เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ร.ศ.116 จ.ศ.1259 ที่วิสุงคามสีมา กว้าง 5 วา ยาว 7 วา”

พร้อมพบโบราณวัตถุจำนวน 133 รายการ รวม 289 ชิ้น ปัจจุบันทั้งหมดถูกรวบรวมไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี