พิธีวางศิลาฤกษ์กุฏิสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดมณีวนาราม
วันที่ 24 ตุลาคม 2565 เวลา 10.49 น. เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ประธานกรรมการฝ่ายสาธารณสงฆ์เคราะห์ ของมหาเถรสมาคม เป็นประธานในการวางศิลาฤกษ์กุฏิ “สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ เขมงฺกรมหาเถร)” ณ วัดมณีวนาราม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
การนี้ พระเทพวิสุทธิโมลี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 พระเทพวรมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 พระเถรานุเถระ และนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ร่วมในพิธี โดยมีพระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ญาติโยมสาธุชนชาวคุ้มวัดมณีวนาราม ถวายการต้อนรับ และนำศรัทธาในการก่อสร้างกุฏิสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ เขมงฺกรมหาเถร)
กุฏิสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ เขมงฺกรมหาเถร) เป็นความศรัทธา ความมุ่งมั่น ตั้งใจของคณะสงฆ์ จังหวัดอุบลราชธานี นำโดย พระเทพวราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ให้เป็นศาสนสถานสำคัญของเมืองอุบลราชธานี ในนามของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ เขมงกรมหาเถร) ที่เป็นลูกหลานของอุบลราชธานี จึงได้กราบนมัสการขอเมตตาให้เจ้าประคุณได้อนุญาตเป็นเบื้องต้นแล้ว และได้ขอความอนุญาตจากจั่งหวัดอุบลราชธานี ให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ออกแบบทั้งด้านสถาปัตยกรรมและโครงสร้างจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ภายในวงเงินงบประมาณ ประมาณ 15 ล้านบาท หลังจากนั้นได้นำขึ้นกราบนมัสการให้เจ้าประคุณได้พิจารณา เพื่อขออนุญาตดำเนินการก่อสร้างตามแบบ ซึ่งเจ้าประคุณได้มีเมตตาอนุญาตให้ก่อสร้างได้ และยังได้เพิ่มพูน เติมเต็มความสมบูรณ์แห่งศาสนสถานนี้ ด้วยการคำนวนฤกษ์ให้มีการวางศิลาฤกษ์ในวันนี้
ในการนี้ คุณวันเพ็ญ ศรีวัฒนชัย ประธานมูลนิธิวัดมณีวนาราม ได้ถวายปัจจัยสมทบทุนเบื้องต้น จำนวน 2,000,000 บาท (สองล้านบาทถ้วน) คุณนวลสวาท จิรนภาวิบูลย์ 50,000 ดร.ปาริชาติ มาลัย 10,000 บาท และจากกฐินสามัคคี นำโดย ดร.ปัทมา ผ่องศิริ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ จำนวน 456,808.25 บาท
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ มีนามเดิมว่า ประสิทธิ์ สุทธิพันธุ์ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นปสฤทธ์) เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2480 ตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 7 ปีฉลู ที่บ้านยางน้อย ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อ ขุนก่อเอ้อุกฤษ (ผา สุทธิพันธุ์) มารดาชื่อ นางก่อเอ้อุกฤษ (ตา สุทธิพันธุ์)
การศึกษา บรรพชา อุปสมบท เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดยางน้อย เมื่อ พ.ศ.2491 หลังจากนั้นได้ย้ายไปสังกัดวัดมณีวนาราม ในเมือง อุบลราชธานี เพื่อเรียนพระปริยัติธรรมต่อจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก (น.ธ.เอก) (2493) แล้วเดินทางไปกรุงเทพฯ เข้าพำนักจำพรรษาที่วัดจักรวรรดิราชาวาส เรียนบาลีไวยากรณ์จนสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค (ป.ธ.3) (2501) และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อ พ.ศ.2501
นอกจากนี้ ท่านยังได้ศึกษาอบรมเพิ่มเติมเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน และได้เดินธุดงค์ไปหลายพื้นที่ทั้งในจังหวัดอุบลราชธานี นครพนมและสกลนคร มีความสนใจฝึกฝนจนสามารถแต่งกวีนิพนธ์ได้ทั้งร้อยกรองและร้อยแก้ว บทกวีที่ได้รับความนิยมเป็นอันมากและมีความเชี่ยวชาญพิเศษคือ วิชโหราศาสตร์ ท่านสามารถนำวิชาโหราศาสตร์มาประยุกต์หลักธรรมระพุทธศาสนาได้อย่างลงตัว ไม่ทำให้ผู้คนชื่ออย่างงมงาย แต่เชื่ออย่างมีเหตุผลโดยกลามสูตร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ หลักการนี้มีผู้ให้ความเชื่อศรัทธา ทุกระดับชั้นในสังคม
สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เป็นพระมหาเถระที่สำคัญมากรูปหนึ่งที่มีสมณศักดิ์ชั้นสูงระดับรองสมเด็จ มีชื่อเสียงโคดเด่นเป็นที่รู้จักและเสื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะสังคมชั้นสูง ผลงานจากอดีตจนถึงปัจจุบันที่สำคัญที่สุดคือด้านพระธรรมทูต เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา จะเห็นว่าท่านเป็นพระผู้นำในการสร้างวัดไทย เป็นเจ้าอาวาสและประธานสมัชชาสงฆ์หลายแห่ง เป็นเวลาหลายปี นอกจากนี้ยังเดินทางไปผยแผ่ในประเทศอื่น ทั้งทวีปยุโรป เอเชีย และออสเตรเลียอีกหลายประเทศ
ในฐานะเป็นชาวอุบลราชธานี ท่านให้ความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาปรับปรุงวัดยางน้อยให้มีความเจริญในทุก ๆ ด้าน เป็นผู้นำในการจัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพและขยายอาคารสถานที่ตั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบสราชธานีไปยังบริเวณเขตพื้นที่ไกล้เคียงบ้านยางน้อย ตำบลก่อเอ้ อำเภอเชื่องใน
ส่วนในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถตามอำนาจหน้าที่ และงานล่าสุดคือ เป็นประธานเปิดวัดเฉลิมพระเกียรตินวมินทราชทิศ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา