พระบารมีปกเกล้าฯ ปวงประชา ในหลวงเสด็จฯวัดป่านานาชาติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถวัดป่านานาชาติ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นับเป็นการเสด็จพระราชดำเนิน จังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 3
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2565 เวลา 17 นาฬิกา 11 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 จ.อุบลราชธานี มีนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ คณะข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น พล.ท.สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 กราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นแท่นรับการถวายความเคารพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดป่านานาชาติ ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง เวลา 18.16 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธ นวราชบพิตร ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล เสร็จแล้ว
พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานประวัติความเป็นมาของวัดป่านานาชาติ และวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างอุโบสถ และขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีตัดหวายลูกนิมิตอุโบสถ
จากนั้นเสด็จออกจากพลับพลาพิธีไปยังอุโบสถ ทรงพระสุหร่าย และทรงเจิม ทรงปิดทองลูกนิมิต ทรงตัดสาแหรกลูกนิมิต พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ แล้วทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธสุเมธคุณ พระประธานอุโบสถ ทรงกราบ เสร็จแล้ว ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธยในแผ่นศิลา
จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปยังพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายอินทพร จั่นเอี่ยม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก จำนวน 150 ราย ตามลำดับ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมง̣กโร) เจ้าอาวาส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ประธานฝ่ายสงฆ์ ถวายพระพุทธรูปพระพุทธสุเมธคุณ (จำลอง) เนื้อหินทรายขัด ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
พระครูอุบลภาวนาวิเทศ (เฮ็นนิ่ง เกวลี) เจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ ถวายหนังสือธรรมะ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จากนั้นเสด็จออกจากพลับพลาพิธีไปทรงปลูกต้นรวงผึ้งไว้เป็นที่ระลึก เสร็จแล้ว ทรงรับสิ่งของต่างๆ ที่ราษฎรนำมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ซึ่งล้วนเป็นงานฝีมือประจำท้องถิ่น และงานประดิษฐ์ที่ราษฎรตั้งใจทำมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย
ต่อจากนั้น เสด็จเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ อยู่บริเวณโดยรอบวัดเป็นจำนวนมาก และทรงมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรอย่างทั่วถึง ราษฎรส่วนใหญ่เดินทางมาจากพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง ต่างพร้อมใจมาร่วมถวายกำลังใจและเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ด้วยความจงรักภักดี
จังหวัดอุบลราชธานี อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ทุกหมู่เหล่า จิตอาสาจำนวนมาก รอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จ และส่งเสด็จตามจุดต่างๆ เช่น กองบิน 21 หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี หน้าห้างเชนทรัล สี่แยกไปศรีสะเกษ และในวัดป่านานาชาติ โดยประชาชนที่มาร่วมในพิธีจะได้รับความสะดวก และมีอาหาร เครื่องดื่ม จากโรงครัวพระราชทานตลอดงาน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 21 จ.อุบลราชธานี เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานครตามลำดับ..
ประวัติและความเป็นมา :
วัดป่านานาชาติ เป็นวัดสาขาที่ 19 ของวัดหนองป่าพง ก่อตั้งโดยมีพระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง เมื่อปี พ.ศ. 2518 เดิมชื่อว่า วัดอเมริกาวาส และมาเปลี่ยนชื่อเป็น วัดป่านานาชาติ ในภายหลัง โดยมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า WAT PAH NANACHAT, BUNG WAI FOREST MONASTERY ซึ่งเป็นวัดที่มีพระภิกษุชาวต่างชาติ เช่น อังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น เป็นต้น มาจำพรรษาอยู่มิได้ขาด เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการตั้งวัดป่านานาชาติขึ้น คือ การเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาศึกษาพระธรรมวินัยในรูปแบบภาษาอังกฤษ เพื่อให้เข้าใจพระธรรมวินัยจนสามารถที่จะออกบวชเป็นพระภิกษุและปฏิบัติตามข้อวัตรสายวัดป่าได้
เมื่อปี พ.ศ. 2510 พระสุเมโธ ( พระพรหมวชิรญาณ ) ชาวอเมริกัน ได้มาอยู่กับพระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นก็ได้มีพระต่างชาติทยอยกันเดินทางเข้ามาอยู่กับท่านมากขึ้น พ.ศ. 2518 วัดหนองป่าพงจึงมีพระสงฆ์ทั้งพระไทยและพระต่างชาติจำพรรษาอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งฟืนสำหรับบ่มบาตรก็หายาก พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) จึงได้อนุญาตให้พระชาวต่างชาติบางรูปออกมาหาฟืนที่ป่าช้าบ้านบุ่งหวาย ซึ่งมีต้นไม้อยู่มากทำให้มีฟืนมากด้วย
ชาวบ้านบุ่งหวายมีจิตศรัทธาในพระสงฆ์วัดหนองป่าพง จึงได้นิมนต์คณะพระภิกษุสามเณรชุดแรกซึ่งมี 6 รูป ไปบ่มบาตรที่ป่าช้าบ้านบุ่งหวายและปักกลด พักวิเวกปฏิบัติธรรมต่อ เมื่ออยู่ได้ 3 วัน ญาติโยมได้ช่วยกันสร้างศาลามุงหญ้าคาพอหลบฝนให้ หลังจากนั้นไม่นานชาวบ้านบุ่งหวายได้ไปกราบพระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) ขอนิมนต์ให้พระเณรอยู่จำพรรษาต่อ ซึ่งท่านก็เมตตาให้สร้างสำนักสงฆ์ขึ้นและมอบหมายให้พระอาจารย์สุเมโธเป็นหัวหน้าสำนัก ในพรรษาแรกนั้น มีพระทั้งหมด 10 รูป และผ้าขาว 1 คน ต่อมาปี พ.ศ. 2519 คณะญาติโยมได้นำกฐินมาทอดและได้สร้างศาลาใหม่ในปี พ.ศ. 2528 เริ่มสร้างวิหาร (พระอุโบสถ)ในตำแหน่งที่พบเสมาเก่าเพื่อให้พระสงฆ์ใช้สวดทำสังฆกรรมต่าง ๆ ในปี พ.ศ. 2530 ได้รับการประกาศตั้งเป็นวัดในพระพุทธศาสนา
เนื่องจากพระชาวต่างชาติมีเพิ่มมากขึ้นทุกปี ญาติโยมจึงได้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินเพิ่ม ปี พ.ศ. 2558 วัดมีเนื้อที่ทั้งหมด 343 ไร่ มีกุฏิ 52 หลัง ในปี พ.ศ. 2536 ได้ทำกำแพงล้อมรอบวัดและได้มีการปลูกป่าทดแทนขึ้นจากเดิมที่เป็นไร่ปอที่ถูกทิ้งร้างไว้ ปัจจุบันได้กลายเป็นป่าที่สมบูรณ์ขึ้นมา
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาบวชที่วัดป่านานาชาติ ไม่ว่าจะอายุเท่าใดต้องมาเป็นผ้าขาวหรือผู้ที่นุ่งห่มผ้าขาวก่อน 4-6 เดือน ตามด้วยการเป็นสามเณร 1 ปี เพื่ออบรมบ่มนิสัยให้เหมาะแก่สมณะเพศ ก่อนที่จะบวชเป็นพระภิกษุได้ เมื่อได้ประสบการณ์ในการปฏิบัติแล้วและได้ศึกษาระบบพระธรรมวินัยพอสมควร คือ ระยะเวลาห้าพรรษา ก็สามารถช่วยเผยแผ่ศาสนาในวัดสาขาที่ต่างประเทศได้ ด้วยว่าการสื่อสารใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ผู้ที่ตั้งใจจะบวชที่วัดป่านานาชาติต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษพอสมควร
พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) ยังมีความมุ่งหมายที่จะให้วัดป่านานาชาติ เป็นที่ฝึกพระภิกษุให้มีคุณสมบัติเป็นผู้นำสงฆ์และปกครองวัดด้วย จึงมีพระภิกษุที่เคยจำพรรษาที่วัดป่านานาชาติหลายรูปไปตั้งสำนักสงฆ์สาขาในต่างประเทศขึ้น ซึ่งกระจายอยู่ในประเทศอังกฤษ เยอรมัน อิตาล สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา แคนาดา และมาเลเซีย เพื่อให้กำลังใจแก่ญาติโยมในการปฏิบัติทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวนพระภิกษุที่ผ่านการอบรมจากวัดป่านานาชาติและยังครองเพศบรรพชิตอยู่ปัจจุบันมีประมาณกว่า 100 รูปทั่วโลก
วัดป่านานาชาติ ได้เริ่มดำเนินการออกแบบและก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้น ในเขตวิสุงคามสีมาเดิมในช่วง พ.ศ. 2561 และ พ.ศ.2562 การก่อสร้างอุโบสถได้สำเร็จแล้ว ในการนี้ วัดป่านานาชาติ และคณะกรรมการจัดงานวัด จึงขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีตัดหวายลูกนิมิต เพื่อความเป็นสิริมงคล ใต้ร่มพระบารมี และเป็นเกียรติประวัติแก่ วัดป่านานาชาติ และพุทธศาสนิกชนชาว จังหวัดอุบลราชธานี และนานาชาติสืบไป
โดยมีจัดกิจกรรมเพื่อประกอบพิธีฉลองอุโบสถ ปีดทองตัดหวายลูกนิมิตผูกพัทธสีมาในระหว่างวันที่ 25 -27 เดือนธันวาคม 2565 เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมพิธีปิดทองลูกนิมิต และผู้มาร่วมพิธีจะได้รับความสะดวกและร่วมทำบุญปฏิบัติธรรมตามข้อวัตรสายวัดป่าอย่างเรียบง่าย
วัดป่านานาชาติ มีพระภิกษุที่เป็นเจ้าอาวาส 7 ลำดับ ดังนี้
1. พระพรหมวชิรญาณ (หลวงพ่อสุเมโธ) พ.ศ. 2518 - 2519 ชาวอเมริกัน
2. พระอาจารย์ปภากโร ชาวอเมริกัน พ.ศ. 2520 - 2521
3. พระอาจารย์ชาคโร ชาวออสเตรเลีย พ.ศ. 2522 - 2524
4. พระราชโพธิวิเทศ (หลวงพ่อปสันโน) ชาวแคนาดา พ.ศ. 2525 - 2539
5. พระธรรมพัชรญาณมุนี(หลวงพ่อชยสาโร) ชาวอังกฤษ พ.ศ. 2540 - 2544
6. พระเทพพัชรญาณมุนี (หลวงพ่อญาณธมฺโม)ชาวออสเตรเลีย พ.ศ. 2545 - 2550 และ
7. พระครูอุบลภาวนาวิเทศ (พระอาจารย์เกวลี) ชาวเยอรมัน พ.ศ. 2551 - ปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2565 มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษา ที่วัดป่านานาชาติจำนวน 22 รูป สามเณร 2 รูปโดยมี พระครูอุบลภาวนาวิเทศ ชาวเยอรมัน เป็นเจ้าอาวาสวัดป่านาชาติ และได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็น พระภาวนาวัชราจารย์ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป
Cr. อ.ปัญญา แพงเหล่า