เปิดใจผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ฟิลิปปินส์ถอนตัวเจ้าภาพซีเกมส์ 2019
วันที่ 24 กรกฎาคม 2560 จากข่าว รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศถอนตัว จากการเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ปี ค.ศ.2019 หรืออีก 2 ปีข้างหน้าแน่นอนแล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยก่อการร้าย ทำให้ต้องมีการหาเจ้าภาพจัดการแข่งขันใหม่ในที่ประชุมสหพันธ์ซีเกมส์ต้นเดือนสิงหาคมนี้ ที่ประเทศมาเลเซีย
จังหวัดอุบลราชธานี ประกาศตัวมาตั้งแต่ต้นว่า พร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปี 2025 หรือในอีก 8 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นวาระเวียนมาจัดที่ประเทศไทยอีกครั้ง จึงมีคำถามว่า จังหวัดอุบลราชธานีจะพร้อมไหมถ้าได้จัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2019 แทนประเทศฟิลิปปินส์
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์กับไกด์อุบลต่อกรณีดังกล่าวว่า ในต้นเดือนสิงหาคมนี้ จะมีการประชุมสหพันธ์ซีเกมส์ ซึ่งต้องรอให้ประเทศฟิลิปปินส์ยืนยันถอนตัวอย่างเป็นทางการก่อน ถึงจะมีการเดินหน้าหาเจ้าภาพใหม่ได้ และต้องดูท่าทีของประเทศไทยด้วยว่า จะเสนอตัวรับเป็นเจ้าภาพจัดแทนประเทศฟิลิปปินส์หรือไม่
"หากประเทศไทยเสนอตัวรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2019 แทนฟิลิปปินส์แล้ว ก็ต้องถามประชาคมชาวอุบลฯ ดูว่า เราจะร่วมมือร่วมใจกันเสนอตัวเพื่อเป็นเจ้าภาพในปี 2019 หรืออีก 2 ปีข้างหน้าหรือไม่ หากชาวอุบลฯ พร้อมใจกัน คณะทำงานเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ก็จะเดินหน้าอีกครั้ง" ผวจ.อุบลฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ในส่วนของเจ้าภาพใหม่นั้น เมื่อดูแล้ว เชื่อว่าบรูไนและลาวคงไม่สนใจจะเป็นเจ้าภาพ มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, พม่าก็รับหน้าที่ไปหมดแล้ว ส่วนเวียดนามก็เตรียมการเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 31 ในปี 2021 เอาไว้แล้ว ดังนั้น ตนมองว่า กัมพูชาที่ขอจัดในครั้งที่ 32 ปี 2023 มีความเหมาะสม และน่าจะต้องการขยับเข้ามาจัดให้เร็วขึ้น เนื่องจากยังไม่เคยเป็นเจ้าภาพมาก่อน รวมทั้งสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็มีความตั้งใจให้ประเทศเป็นเจ้าภาพซีเกมส์มานานแล้ว ขณะที่ไทยเอง ที่ให้ความสนใจจะเป็นเจ้าภาพเช่นกัน โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี ที่มีการแถลงข่าวเตรียมพร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 หรือ พ.ศ.2568 นั้น น่าจะยังเร็วเกินไปที่จะจัดในอีก 2 ปีข้างหน้า