ร่วมกันสวดลักขี บำเพ็ญบุญ โอกาส 99 ปี หลวงพ่อวิริยังค์
การสวดลักขี เป็นการรวมตัวกันของประชาชน อันเป็นศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร หรือ พระธรรมมงคลญาณ แห่งวัดธรรมมงคล ศิษย์พระอาจาย์มั่น ภูริทัตโต ที่ปี 2562 ท่านจะมีอายุ 99 ปี โดยท่านมีวันคล้ายวันเกิดในวันที่ 7 มกราคม 2561 ดังนั้นศิษย์ทั่วประเทศและทั่วโลกหลายแสนคน ของหลวงพ่อวิริยังค์ จึงมักถือโอกาสอันเป็นมงคลนี้ในการสร้างบุญอันยิ่งใหญ่ร่วมกันทุกปี ด้วยการสวดลักขี หรือการสวดพระพุทธมนต์ บทอิติปิโสฯ เป็นเวลาหลายวันต่อเนื่องกัน ที่วัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร ในขณะเดียวกันยังใช้โอกาสนี้สวดพระพุทธมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระมหากษัตริย์ของไทย และประเทศไทย ให้เข้าสู่ความสงบสุข อันเป็นการสวดมนต์เพื่อให้เกิดพลังแห่งการคุ้มครองประเทศชาติให้ร่มเย็น
การสวดลักขีใน ปี 2562 ซึ่งจะมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงวันที่ 4-8 มกราคม 2562 ซึ่งปีนี้เชื่อว่ายังจะมีศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อวิริยังค์ฯ และประชาชนทั่วไปหลั่งไหลกันไปสวดลักขีมากมายมหาศาลเช่นเดียวกับทุกปี นอกจากนี้ ในสาขาของสถาบันพลังจิตตานุภาพ ของหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร หรือ พระธรรมมงคลญาณ หลายสาขาทั่วประเทศไทย จะมีการจัดกิจกรรมสวดลักขีในปีนี้พร้อมๆ ไปกับส่วนกลาง เพื่อร่วมกันบำเพ็ญบุญเนื่องในโอกาส 99 ปี ของหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร หรือ พระธรรมมงคลญาณ
โดยสถาบันพลังจิตตานุภาพ สาขา 44 ก็จะมีการจัดกิจกรรมบวชชีพราหมณ์และสวดลักขึ ขึ้นในวันที่ 4-8 มกราคม 2562 ณ พระอุโบสถ วัดสุปัฏนาราม วรวิหาร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และเปิดโอกาสให้ศิษยานุศิษย์ของสถาบันพลังจิตตานุภาพทุกรุ่น และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมกิจกรรมสวดมนต์ดังกล่าวได้โดยพร้อมเพรียงกัน
ดังนั้น เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสอันสำคัญนี้จึงขอเชิญชวนศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่สนใจร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพื่อสร้างบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ให้กับตนเอง และประเทศชาติ ด้วยการร่วมกันสวดลักขีครั้งยิ่งใหญ่นี้โดยพร้อมเพรียงกัน
สำหรับการสวดลักขี คือการสวดพระพุทธมนต์ บท อิติปิโสฯ ให้ได้จำนวนครั้งตามที่กำหนดในกิจกรรมนั้นๆ เช่น ถ้าสวด 100 คน ๆ ละ 9 จบ ก็จะได้ 900 จบ ถ้าคน 1,000 คน สวนคนละ 9 จบ ก็จะได้ 9,000 จบ ถือเป็นอุบายธรรมให้ทุกคนร่วมใจกัน
ประวัติงานสวดลักขีบวชชีหมื่นคน
พิธีกรรมการบวชชีนั้น เริ่มต้นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2499 ณ สถานที่ธุดงค์วิปัสสนากรรมฐาน วัดดำรงธรรมาราม อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งตอนนั้น พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล) เกิดความตระหนักว่า ในเส้นทางปฏิบัติธรรม ผู้หญิงไม่ค่อยมีสิทธิเทียมเท่าผู้ชาย จึงได้คิดแนวปฏิบัติ ที่จะให้โอกาสสตรี ด้วยการบวชชีให้สตรี ได้เข้าสู่การปฏิบัติธรรม แห่งปณีตศีล ถือเพศบรรพชิต กินนอนในวัดอย่างน้อย ๓ วัน โดยวันแรกนั้น ถือเป็นวันรับศีล วันที่สอง เป็นวันทรงศีล จะมีโอกาสปฏิบัติธรรมได้เต็มที่ ส่วนวันสุดท้าย จะเป็นวันส่งผลบุญ
พิธีกรรมครั้งแรก ในการบวชชี มีหลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ และ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ เป็นผู้ให้วิสัยแก่ผู้เข้ามาบวชชี ในสมัยนั้น ถือว่าเป็นของใหม่ แต่ก็มีผู้สนใจเข้ามาบวชชีถึง 625 คน ด้วยอานิสงส์ผลบุญแห่งการบวช ทำให้หลายคนที่ผ่านการบวชแล้ว กลับไปด้วยจิตอิ่มเอิบเบิกบานแจ่มใส มีความสุขใจ โดยทั่วกัน
ในครั้งนั้น หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ได้พิมพ์ภาพของท่าน แจกให้กับผู้ที่มาบวชชีเป็นที่ระลึก และ ในจำนวนนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่ง บ้านอยู่ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มีอาชีพต้มเหล้าพื้นบ้าน (เหล้าเถื่อน) ขาย วันหนึ่งเธอประสบอุบัติเหตุถึงชีวิต ขณะที่เธอมีสติเลื่อนลอยไปเรื่อยๆ แล้วมาอยู่ตรงที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีคนหน้าตาดุร้ายหลายคน จับเธอโยนลงไปในกระทะใบใหญ่ ที่มีน้ำเดือดพล่านๆ แต่พอเธอจะตกลงไป ก็มีอันกระดอนกลับขึ้นมา เป็นอยู่อย่างนี้ถึง 3 ครั้ง
ในช่วงนั้นเธอเห็นรูป หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร มารองรับเธอไว้ มิให้ตกลงไปในกระทะ แม้ชายหน้าตาดุดันก็เห็นเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ได้หยิบรูปนั้นขึ้นมา แล้วถามว่ารู้จักคนนี้หรือไม่เธอตอบว่ารู้จัก เพราะเคยไปบวชชีที่วัดของท่าน 3 วัน เขาจึงบอกให้เธอกลับไปได้ เธอมารู้สึกตัวอีกครั้ง ขณะที่ญาติกำลังจะเอาร่างของเธอใส่ลงในหีบศพ พอรู้ว่าเธอฟื้นต่างก็ดีอกดีใจ จากวันนั้นเธอประกาศเลิกต้มเหล้าขายอย่างเด็ดขาด ข่าวนี้ฮือฮากันมากในช่วงเวลานั้น
ต่อมาเมื่อมีการบวชชีที่วัดดำรงธรรมารามเมื่อไรคนจะแห่เข้าไปจนแน่นวัดแล้ววัดอื่นก็เอาแบบอย่างนี้ไปปฏิบัติตามจนแพร่หลายไปทั่ว เมื่อหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ไปสร้างวัดที่ใดก็จะนำเอาประเพณีสวดลักขีไปจัดขึ้นที่วัดนั้นๆ ดังเช่นที่วัดธรรมมงคล ถนนสุขุมวิท ซอย ๑๐๑ เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร
การสวดลักขี ที่วัดธรรมมงคลจะจัดในช่วงวันคล้ายวันเกิด พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร
ประมาณระหว่าง วันที่ 4-7 มกราคม ของทุกปี จะมีอุบาสก อุบาสิกา มาร่วมงานร่วมสามหมื่นคน ใช้เวลาสามวันสามคืนในการสวดมนต์ นั่งสมาธิ ฟังธรรม หลับตื่น ถือศีล8 กินนอน นุ่งขาวห่มขาว อยู่ที่วัดธรรมมงคล ถือเป็นงานสำคัญครั้งใหญ่ของพุทธศาสนา ที่มีจัดเป็นประจำทุกปี
พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ท่านเกิดวันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2463 ปีวอก แรม 13 ค่ำ เดือนอ้าย ณ สถานีรถไฟปากเพรียว จังหวัดสระบุรี ต่อมาย้ายมาตั้งหลักฐานที่บ้านใหม่สำโรง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มีพี่น้อง 7 คน
ประโยชน์ของการสวดลักขี
1. การสวดลักขี ถือเป็นการสวดพระพุทธมนต์ หรือ สวดมนต์ ซึ่งเป็นการสร้างสิ่งที่เป็นสิริมงคลสูงสุดให้กับตัวเอง และยังเป็นการแผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ต่างๆ ทั่วโลกได้ดีอีกด้วย
2. เป็นการสืบอายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยงสืบต่อไปชั่วกัลป์ปาวสาร
3. ในการสวดพระพุทธมนต์ จิตของผู้สวดจะเป็น สุจริต หรือที่เรียกว่า มโนสุจริต เนื่องจากคิดคำนึงถึงแต่พระพุทธมนต์ วาจาเราจึงเป็นสุจริต ‘วจีสุจริต’ เนื่องจากกล่าวคำอันเป็นมงคลที่พระพุทธเจ้าและพระมหาสาวกกล่าวกันมากว่า 2,600 ปี และกายยังเป็นสุจริตด้วยเนื่องจาก เป็นการนั่งประนมมือไม่ไปทำร้ายผู้ใด
4. การสวดพระพุทธมนต์คุณวิเศษที่แตกต่างกัน เช่น หากสวด บทอติปิโส ซึ่งเป็นบทย่อของ ธะชัค คะสูตร หรือพระสูตรที่ว่าด้วยธง พระสูตรที่พระพุทธเจ้าสอนพระภิกษุทั้งหลาย ทรงเล่าเรื่องการเทวาสุรสงครามระหว่างเทพ ซึ่งเท้าสักกะเทวราชหรือพระอินทร์เป็นจอมทัพกับเหล่าอสูตร ซึ่งถูกขับไล่ลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ การสวดพระพุทธมนต์บทอิติปิโส จึงเท่ากับการสวดเพื่อขับไล่ความกลัวทั้งมวล ที่สำคัญ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในพระตรัยปิฎกว่า เธอจงเจริญพุทธนุสติภาวนาที่ยอดเยี่ยมในการภาวนาธรรม เพราะผู้เจริญภาวนานี้จะสมหวังดังมโนรส
ง่ายๆ คือ บทสวดอิติปิโส ในพระไตรปิฎก ถ้าสวดบ่อยๆ ปรารถนาสิ่งใดที่ดีงามจะสัมฤทธิ์ผลดังใจปรารถนา
5. การที่คนมาชุมนุมกันเพื่อทำสิ่งดีงามเดียวกัน รวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน จะทำให้เกิดอานุภาพมากมายมหาศาล และจะได้ความสุขใจ และพลังในการดำเนินชีวิตอย่างมากมายมหาศาล
ผู้สนใจร่วมกิจกรรมสวดลักขีครั้งนี้ สามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่เวลา 18.09 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2562 เป็นต้นไป ณ พระอุโบสถวัดสุปัฏนาราม วรวิหาร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 8 มกราคม 2561 และมีการนอนจำวัด ณ สถานที่สวดพระพุทธมนต์ และจะสิ้นสุดกิจกรรมสวดลักขีในวันที่ 8 มกราคม 2562 เวลา 16.09 น. พร้อมทำพิธีลาสิกขาของผู้ร่วมกิจกรรมที่แต่งกายด้วยชุดขาวเพื่อปฏิบัติธรรมครั้งนี้