ไขข้อสงสัยการทำ PESA ราคาเท่าไร อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้มีบุตรยาก
ภาวะมีบุตรยากสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย แต่ถ้าหากปัญหาเกิดขึ้นจากฝ่ายชายเป็นหลัก การตรวจวิฉิจฉัยอย่างละเอียดจะทำให้รู้ถึงสาเหตุและหาทางรักษาได้อย่างตรงจุด สำหรับคุณผู้ชายที่กำลังมองหาตัวช่วยในการรักษาภาวะมีบุตรยาก จะขอพาไปรู้จักกับการทำ PESA ทั้งในเรื่องราคา ขั้นตอนการรักษา และผลลัพธ์ที่จะได้รับ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ
PESA คืออะไร?
PESA (Percutaneous Epididymal Sperm Aspiration) หรือการเจาะเก็บอสุจิจากท่อมีนํ้าเชื้อโดยตรง เป็นขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการช่วยการเจริญพันธุ์ที่ใช้สำหรับผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องอสุจิ โดยเฉพาะผู้ที่มีจำนวนอสุจิน้อย หรือไม่มีอสุจิในน้ำอสุจิที่หลั่งออกมา ในปัจจุบันการทำ PESA มีอยู่ในหลายราคา ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่เข้าไปรักษา รวมถึงเทคโนโลยีที่เลือกใช้ด้วย
ทำไมการทำ PESA ถึงจำเป็น?
หลายๆ คนอาจสงสัยว่า ทำไมการทำ PESA ถึงจำเป็น และสามารถช่วยให้มีโอกาสมีบุตรได้สมใจ สำหรับการทำ PESA นั้นเป็นขั้นตอนการผ่าตัดขนาดเล็กที่ใช้ในการเก็บอสุจิจากท่อมีนํ้าเชื้อ ซึ่งเป็นท่อที่เชื่อมต่อระหว่างอัณฑะกับท่อปัสสาวะ อสุจิที่ได้จากการเจาะจะถูกนำไปใช้ในการปฏิสนธิกับไข่ของผู้หญิง โดยวิธีการฉีดอสุจิเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง (ICSI) เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์
เหตุผลที่ต้องทำ PESA
- ผู้ชายที่มีปัญหาไม่มีอสุจิในน้ำอสุจิ: ผู้ชายบางรายมีปัญหาในการหลั่งอสุจิ หรือมีปริมาณอสุจิน้อยมากจนไม่สามารถนำมาใช้ในการปฏิสนธิได้
- ผู้ชายที่อสุจิเคลื่อนไหวช้า: ถึงแม้ว่าอสุจิอาจมีจำนวนที่เพียงพอ แต่อาจเคลื่อนไหวช้าเกินไปที่จะว่ายน้ำเข้าไปในเซลล์ไข่ได้
- ผู้ที่มีปัญหาทางโครงสร้างของอสุจิ: อสุจิอาจมีรูปร่างที่ผิดปกติ หรือมีปัญหาทางพันธุกรรมจนทำให้ไม่สามารถเกิดการตั้งครรภ์ได้
- ผู้ที่เกิดภาวะอุดตันของท่อนำอสุจิ: ท่อนำอสุจิอาจอุดตัน ทำให้อสุจิไม่สามารถเคลื่อนตัวออกมาได้ การรักษาด้วยวิธีนี้จึงสามารถช่วยให้ได้อสุจิมาใช้สำหรับการปฏิสนธิได้
ขั้นตอนการทำ PESA
การทำ PESA เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างง่ายและรวดเร็ว โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง และสามารถทำได้ภายใต้การดมยาสลบเฉพาะที่ โดยมีขั้นตอนการทำมีดังนี้
- การเตรียมตัว: แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและอธิบายขั้นตอนการทำ PESA ให้ผู้ป่วยทราบ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- การทำความสะอาดบริเวณที่ผ่าตัด: แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณถุงอัณฑะด้วยยาฆ่าเชื้อ
- การฉีดยาชา: แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณถุงอัณฑะเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
- การเจาะเก็บอสุจิ: แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กเจาะเข้าไปในท่อมีนํ้าเชื้อเพื่อดูดเอาอสุจิออกมา
- การตรวจสอบคุณภาพของอสุจิ: อสุจิที่ได้จะถูกนำไปตรวจสอบคุณภาพในห้องปฏิบัติการ
- การปฏิสนธิด้วยวิธี ICSI: หากพบอสุจิ แพทย์จะนำอสุจิไปฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่ของผู้หญิงโดยตรง
- การฝังตัวอ่อน: เมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตถึงระยะที่เหมาะสม แพทย์จะนำตัวอ่อนไปฝังกลับเข้าสู่มดลูกของผู้หญิง
การทำ PESA มีราคาเท่าไหร่?
อย่างที่บอกไปว่าค่าใช้จ่ายในการทำ PESA ราคาจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คลินิกที่ทำการรักษา ประสบการณ์ของแพทย์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ และจำนวนครั้งในการทำ ดังนั้น ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละแห่ง แต่โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายในการทำ PESA มักมีราคาสูง เพราะมีทั้งค่าตรวจวินิจฉัย ค่ายา ค่าห้องปฏิบัติการ ค่าแพทย์ และค่าบริการอื่นๆ ร่วมด้วย
ข้อดีและข้อเสียของ PESA
ข้อดี
- เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์: PESA เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้คู่รักที่มีปัญหาเรื่องอสุจิสามารถมีบุตรได้
- ขั้นตอนการทำง่ายและรวดเร็ว: การทำ PESA เป็นการผ่าตัดขนาดเล็กที่ใช้เวลาไม่นาน
- ผลข้างเคียงน้อย: ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคืออาการปวดบริเวณถุงอัณฑะ ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยา
- สามารถเก็บอสุจิไว้ใช้ในอนาคต: อสุจิที่ได้จากการเจาะสามารถแช่แข็งเก็บไว้ใช้ในอนาคตได้
ข้อเสีย
- ไม่สามารถรับประกันความสำเร็จ: แม้ว่า PESA จะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์เสมอไป
- มีค่าใช้จ่ายสูง: ค่าใช้จ่ายในการทำ PESA ค่อนข้างสูงหากเทียบกับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ
- มีความเสี่ยงจากการติดเชื้อ: เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่นๆ การทำ PESA ก็มีความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้
สำหรับคู่รักที่มีปัญหามีบุตรยาก วิธีการทำ PESA ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อาจช่วยเพิ่มโอกาสให้กับการมีบุตรได่ โดยเฉพาะผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องอสุจิ แต่ก่อนตัดสินใจทำ PESA ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพร่างกายและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดด้วย