ทั้งอากาศ ทั้งฝุ่น สารพัดปัจจัยที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ยิ่งถ้าใครภูมิคุ้มกันต่ำด้วยแล้วล่ะก็ เตรียมตัวเป็นหวัดได้เลย แต่ถ้ากินวิตามินซีอยู่ตลอดก็ยังพอจะช่วยได้…จริงหรอ?

เรียกได้ว่าอัตราการป่วยของคนในสังคมปัจจุบันนั้น มีแนวโน้มสูงและเป็นบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากไวรัส เชื้อโรค มลภาวะ หรือแม้กระทั่งฝุ่น PM 2.5 ที่ทำลายระบบหายใจให้สุขภาพคนไทยต้องย่ำแย่แบบผ่อนส่งในทุก ๆ วัน ซึ่งถ้าใครอยากที่จะป้องกันอาการป่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลาขาดจากการเป็นหวัดบ่อย ๆ การกินวิตามินซีอาจช่วยคุณได้

บูสต์ระบบภูมิคุ้มกัน ลดการเป็นหวัดแค่กินวิตามินซีให้เพียงพอ!

ระบบภูมิคุ้มกันเปรียบเสมือนกำแพงป้องกันข้าศึกที่จะเข้ามาทำร้าย ให้ร่างกายของคุณต้องอ่อนแอลง ซึ่งในที่นี้ก็สามารถพบได้ทั้งบริเวณเนื้อเยื่อ อวัยวะ และเซล์ต่าง ๆ พร้อมร่วมกันจัดการไวรัสหรือเชื้อโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เป็นต้น

บทความสำคัญที่จะตอบคำถามว่าทำไมคนที่อยากลดอัตราการเป็นหวัด ถึงควรกินวิตามินซี นั่นเป็นเพราะบทบาทสำคัญที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง โดยจะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายต่าง ๆ ที่อาจเป็นอัตรายต่อระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีความเกี่ยวข้องต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่ต่อสู้ และดักจับเชื้อไวรัสและแบคทีเรียอีกด้วย

นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไมในช่วงที่เป็นหวัด คุณถึงควรกินวิตามินซีจากแหล่งธรรมชาติและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมให้เพียงพอต่อการทำงานของร่างกาย เพราะถ้าไม่ได้รับสารอาหารที่ว่าในปริมาณที่เหมาะสม ระบบภายในก็ไม่อาจกำจัดสิ่งแปลกปลอมออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ การฟื้นตัวก็จะช้าลง แถมยังเสี่ยงป่วยนานจนทำให้มีภาวะแทรกซ้อมที่ไม่พึงประสงค์ได้

ฟื้นจากการเป็นหวัดให้ไว ควรกินวิตามินซีปริมาณเท่าไหร่?

ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำในแต่ละวันจะแตกต่างกันไปตามอายุและเพศ จากข้อมูลของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ ปริมาณวิตามินซีที่แนะนำ (RDA) สำหรับผู้ใหญ่คือ 75-90 มิลลิกรัมต่อวันสำหรับผู้หญิงและผู้ชายตามลำดับ อย่างไรก็ตามในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร RDA จะเพิ่มขึ้นเป็น 85-120 มิลลิกรัมต่อวัน

อย่างไรก็ตามวิตามินซี ถือเป็นวิตามินชนิดละลายในน้ำได้ จึงหมายความว่าร่างกายจะไม่สามารถกักเก็บไว้ได้ทั้งหมด โดยปริมาณที่เป็นส่วนเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับวิตามินซีจากการรับประทานอาหารหรืออาหารเสริมอย่างสม่ำเสมอ

โดยผักและผลไม้หลายชนิดเอง ก็ถูกจัดได้ว่าเป็นแหล่งขุมทรัพย์วิตามินซียอดเยี่บม ทั้งผลไม้รสเปรี้ยว เบอร์รี่ กีวี มะม่วง มะละกอ สับปะรด และผักต่างๆ เช่น บรอกโคลี กะหล่ำดาว พริกหยวก และผักโขม ตั้งเป้าที่จะบริโภคผักและผลไม้หลากหลายชนิดทุกวันเพื่อให้เพียงพอกับปริมาณวิตามินซีที่แนะนำในแต่ละวัน