guideubon

 

3 ข้อน่ารู้เกี่ยวกับ DW SET50 ที่สายเทรดไม่ควรพลาด

สำหรับใครก็ตามที่เป็นนักลงทุนสายเกร็งกำไรในระยะสั้น เราเชื่อว่าชื่อของ DW (Derivative Warrant) SET50 น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นักลงทุนสายนี้หลายคนให้ความสนใจ ถึงแม้ DW จะมีจุดเด่นหลายข้อที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ที่กำลังมองหาช่องทางในการกระจายความเสี่ยงรูปแบบใหม่ๆ แต่ถ้าหากเราตัดสินใจลงเงินไปโดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ DW SET50 ให้ถี่ถ้วน แน่นอนว่าการวางแผนลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนเป็นไปตามต้องการก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก และเพื่อเป็นการลดข้อผิดพลาดจากความไม่รู้ให้เหลือน้อยที่สุด วันนี้เราจึงตัดสินใจมาบอกต่อ 3 ข้อที่สายเทรดต้องรู้เกี่ยวกับ DW ตามรายละเอียดด้านล่าง ดังนี้ 

dwarrant24-01.jpg

SET50 แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ

เรื่องสำคัญเรื่องแรกที่เราจำเป็นต้องทราบก่อนตบเท้าเข้าสู่วงการนี้คือ DW รูปแบบดังกล่าวสามารถแบ่งย่อยลงไปได้อีก 2 ประเภท ประกอบไปด้วย Index DW และ Index Futures DW โดย DW ทั้งสองประเภทนี้ต่างก็มีรูปแบบการอ้างอิง และการกำหนดสภาพคล่องที่แตกต่างกันออกไป ตามข้อมูลคร่าวๆ ดังนี้ 

Index DW - เป็น DW ที่อ้างอิงหุ้นใน SET50 ดังนั้นราคาที่แสดงออกมาจึงเป็นการสะท้อนราคาจริงในตลาด ส่วนในเรื่องของการกำหนดสภาพคล่อง ราคาซื้อขายของ DW ประเภทนี้จะกำหนดจากการนำ Best bid และ Best offer ของหุ้น 50 ตัวแรกในตลาดหลักทรัพย์มาคำนวณ 

Index Futures DW – เป็น DW ที่อ้างอิงกับ SET50 Index Futures ซึ่งเป็นตารางที่แสดงให้เห็นถึงมุมมองของนักลงทุนต่อราคาในตลาดหลักทรัพย์ ในขณะที่การกำหนดสภาพคล่องก็จะยึดตามข้อมูลบนตารางของ Index Futures DW เป็นหลัก 

สรุป: ในเมื่อ DW ที่อ้างอิงกับตลาดหลักทรัพย์มีการแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเช่นนี้ นักลงทุนอย่างเราจึงควรศึกษาและสอบถามผู้ออกให้ดีว่า DW ที่เราลงกำลังจะตัดสินใจทุนนั้นเป็น DW ประเภทไหนเพื่อให้เราสามารถศึกษาข้อมูลจากตาราง DW ให้ถูกประเภท และสามารถวางแผนการลงทุนให้เหมาะสมได้ในท้ายที่สุด

มีทั้งแบบ Call และ Put DW 

DW ที่อ้างอิงกับตลาดหลักทรัพย์มีรายละเอียดที่เหมือนกับ DW อ้างอิงดัชนีรายตัวตรงที่มีการแบ่ง DW ออกเป็น Call DW และ Put DW โดย Call DW คือ DW ที่ราคาจะปรับตัวขึ้นหรือลงไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นจึงตอบโจทย์กับการลงทุนในช่วงที่มีการคาดการณ์ว่าตลาดจะอยู่ในขาขึ้น แต่ในขณะที่ Put DW คือ DW ที่ราคาจะปรับตัวสวนทางกับตลาด ดังนั้นจึงเหมาะกับกรณีที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดจะอยู่ในขาลงมากกว่านั่นเอง

วิธีอ่านสัญลักษณ์

ชื่อของ DW จะประกอบไปด้วยตัวเลขและตัวอักษรรวมกันทั้งหมด 13 ตัว โดย 5 ตัวแรกจะเป็นชื่อ SET50 ในขณะที่ 2 ตัวถัดมาจะเป็นรหัสของผู้ออก DW ในขณที่ะข้อมูลอื่นๆ หลังจากนั้นจะประกอบไปด้วยตัวอักษร C (บ่งบอกว่า DW ตัวนี้เป็น Call DW) หรือ P (บ่งบอกว่า DW ตัวนี้เป็น Put DW), ปีและเดือนที่ DW จะหมดอายุ YYMM ( เช่น 22/12: หมดอายุในเดือน 12 ปี 2022) และรุ่นของ DW (เรียงตามตัวอักษร A-Z) ตามลำดับ