guideubon

 

อุโมงค์ทางลอด ดงอู่ผึ้ง-วนารมย์ ได้ใช้ภายในสิ้นปี 2565 นี้

อุโมงค์-ดงอู่ผึ้ง-วนารมย์-01.jpg

วันที่ 17 มิถุนยายน 2565 นายศรัทธา กอบกุลบุญศิริ ผอ.สำนักงาน ปปช.จ.อุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ปปช.อุบลฯ เข้าประชุมติดตามเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 231 กับทางหลวงหมายเลข23 (แยกดงอู่ผึ้ง)( พร้อมทางคู่ขนาน )จ.อุบลฯ (ดงอู่ผึ้ง-วนารมย์) โดยมี ผอ.แขวงทางหลวงอุบลราชธานีที่ 1 และ นายนพดล มหาทน นายช่างผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการฯ กรมทางหลวง เป็นผู้นำเสนอและให้ข้อมูลร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ณ สำนักงานควบคุมโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 231 กับทางหลวงหมายเลข23 (แยกดงอู่ผึ้ง)( พร้อมทางคู่ขนาน )จ.อุบลฯ ถ.อุบล-ตระการ บ้านปลาดุก ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลฯ

อุโมงค์-ดงอู่ผึ้ง-วนารมย์-02.jpg

นายนพดล มหาทน นายช่างผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ จุดตัดทางหลวงหมายเลข 231 กับทางหลวงหมายเลข23 (แยกดงอู่ผึ้ง)( พร้อมทางคู่ขนาน )จ.อุบลฯ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างฯ นี้เป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง ซึ่งการก่อสร้างอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของแขวงทางหลวงอุบลราชธานีที่ 1 โดยกรมทางหลวงเริ่มเซ็นต์สัญญาก่อสร้างกับผู้รับจ้างเมื่อ 30 เม.ย.2562 เดิมกำหนดระยะเวลาก่อสร้างไว้ที่ 1,080 วัน หรือประมาณ 3 ปี

แต่เนื่องจากติดขัดปัญหาเรื่องการเข้าดำเนินการก่อสร้างโครงการของผู้รับจ้าง ไม่สามารถทำได้ระยะแรก เนื่องจากติดขัดสาธารณูปโภคพื้นฐาน ได้แก่ ท่อประปา เสาไฟฟ้า และสายโทรศัพท์ ที่โยกย้ายออกจากพื้นที่ก่อสร้างไม่ทัน โดยกินเวลามากกว่าการรื้อถอนสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่ขัดขวางโครงการจะแล้วเสร็จ ก่อให้เกิดความล่าช้าของโครงการ

เพราะก่อนทำการก่อสร้างหรือขุดตัววงเวียนเพื่อทำฐานอุโมงค์ทางลอด โครงการจำเป็นจะต้องก่อสร้างทางเบี่ยงเพื่อให้รถสัญจรไปมารอบจุดก่อสร้างได้ก่อน จากนั้นจึงจะเริ่มลงมือทำการก่อสร้างส่วนของตัวทางแยกต่างระดับได้ กรณีดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้ผู้รับจ้างไม่สามารถเข้าดำเนินการก่อสร้างได้ตามระยะเวลาที่วางไว้ จึงขออนุมัติต่อกรมทางหลวงเพื่อขยายระยะเวลาการก่อสร้างตามจำนวนวันที่ผู้รับจ้างไม่สามารถเข้าดำเนินการได้

อุโมงค์-ดงอู่ผึ้ง-วนารมย์-03.jpg

ซึ่งกรมทางหลวงได้หารือในคณะกรรมการ พิจารณาแล้ว เห็นสมควรจึงได้อนุมัติให้มีการขยายเวลาการก่อสร้างจากเดิมสิ้นสุดสัญญาในเดือนเมษายน 2565 และขยายออกไปจนถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 หรืออีก 317 วัน ตามระยะเวลาที่ไม่สามารถเข้าทำก่อสร้างได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวยังไม่รวมถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สาธารณสุขจังหวัด ได้ออกติดตามในพื้นที่และพบผู้ติดเชื้อในโครงการส่งผลให้การก่อสร้างหยุดชะงัก แต่กรณีดังกล่าวก็ไม่ได้ถูกหยิบยกเพื่อเป็นข้ออ้างในการขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างออกไปแต่อย่างใด

นายนพดล กล่าวว่า สำหรับผลความคืบหน้าของการก่อสร้างฯ ทั้งดงอู่ผึ้งและวนารมย์ขณะนี้ มีความก้าวหน้าที่ 76.871% จากแผนงานรวม 80.862% หรือล่าช้าจากแผนคิดเป็น 3.991% อย่างไรก็ตามแม้การขยายระยะเวลาการก่อสร้างจะมีผลสิ้นสุด 24 ก.พ.66 แต่คาดว่าการก่อสร้างทั้งหมดของโครงการจะแล้วเสร็จไม่เกินสิ้นปี 2565 นี้

เนื่องจากปัจจุบันปริมาณงานส่วนใหญ่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ทั้งพื้นผิวจราจรในทางคู่ขนาน รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานล่างของทางแยกวงเวียน ระบบสูบน้ำอัตโนมัติภายใต้ฐานล่างของวงเวียน ขณะที่ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างกำแพงและหลังคาวงเวียนที่มีลักษณะวงกลม ซึ่งคาดว่าถึงกลางเดือนกรกฎาคม 65 น่าจะแล้วเสร็จ จากนั้นจะทำการก่อสร้างบริเวณขอบจานวงเวียน (เหนือตัวอุโมงค์) ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หรือประมาณกลางเดือนสิงหาคม 65 คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จหากไม่มีอุปสรรคแทรก

อุโมงค์-ดงอู่ผึ้ง-วนารมย์-04.jpg

และหลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือการเก็บรายละเอียดของงาน เช่น ตีเส้นจราจร และติดตั้งป้ายจราจร ดังนั้นจึงคาดว่าราวสิ้นเดือนสิงหาคมการก่อสร้างส่วนใหญ่น่าเสร็จลุล่วงไปแล้ว อย่างไรก็ตามการก่อสร้างขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างดังนั้นระยะเวลาดังกล่าวจึงเป็นเพียงการคาดการณ์ซึ่งปัจจุบันการดำเนินงานได้พยามเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ด้าน นายศรัทธา กอบกุลบุญศิริ ผอ.สำนักงาน ปปช.จ.อุบลฯ กล่าวว่า การติดตามโครงการในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกรณีการร้องเรียนใดๆ แต่เป็นโครงการป้องกันการทุจริตแนวใหม่ของ ปปช. ซึ่งจากการตรวจติดตามโครงการนี้ พบว่าโครงการนี้เป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อยู่ในความสนใจของประขาชน เช่นเดียวกับอีกหลายโครงการ เช่น ที่ภาคใต้ก็มีโครงการที่ใช้งบประมาณสูงกว่า 900 ล้านบาท ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบโครงการนี้ พบว่าไม่มีความแตกต่างจากโครงการก่อสร้างอื่นๆ ทั่วไป และไม่พบว่ามีการทุจริตในโครงการแต่อย่างใด ทว่าจากการรับทราบข้อมูลในครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ ปปช.สามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลเพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะกรณีปัญหาที่เกี่ยวกับการโยกย้ายสาธารณูปโภคพื้นฐานออกจากพื้นที่ก่อสร้างที่ล่าช้า ทำให้เสียเวลาในการดำเนินการก่อสร้างและส่งผลกระทบต่อประชาชน การแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงถือเป็นความสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะก่อนการจะเริ่มทำโครงการ ฝ่ายเจ้าของสาธารณูปโภคพื้นฐานควรรับทราบข่าวสารของโครงการล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมในการวางแผนและจัดตั้งงบประมาณเพื่อทำการรื้อถอนสาธารณูปโภคที่อยู่ในแนวเขตที่จะก่อสร้างได้โดยเร็ว เนื่องจากปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นกับโครงการก่อสร้างต่างๆ อยู่บ่อยครั้งจนส่งผลให้การก่อสร้างเกิดความล่าช้าและก่อให้เกิดการเสียโอกาสของทั้งประชาชนและทางฝ่ายผู้รับจ้างก่อสร้างไปด้วย ซึ่ง ปปช.จะเตรียมสะท้อนปัญหานี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อหาแนวทางในการป้องกันปัญหาที่จะเกิดในลักษณะนี้กับโครงการอื่นๆ ที่จะมีขึ้นต่อไป

อุโมงค์-ดงอู่ผึ้ง-วนารมย์-05.jpg