วันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ที่บริเวณลานเทียนเฉลิมพระเกียรติ มณฑลพิธี ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี มีพิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี อย่างเป็นทางการ โดยมีท่านนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะฯ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน และนั่งชมพิธีเปิดอย่างประทับใจ ซึ่งมีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 23-28 กรกฎาคม 2561 นี้
การแสดงพิธีเปิดงาน เป็นการเล่าเรื่องตำนานการจัดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง พระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งข้าหลวงใหญ่ สำเร็จราชการมณฑลลาวกาว โดยมาประทับบัญชาการที่เมืองอุบล
พระองค์นี้นี่เอง ได้เริ่มสลักเสลาความวิจิตรแห่งวัฒนธรรม ได้ผสานสายสัมพันธ์สองเมืองเป็นเสมือนมิตรไมตรี นำวิถีพุทธปฏิบัติมาสืบสาน ด้วยการส่งเสริมการถวายเทียนจำนำพรรษา อันสอดคล้องกับฮีตอันดีงามดั้งเดิมของบุญเดือนแปด
การถวายเทียนจำนำพรรษา เป็นประเพณีที่ได้รับการสืบทอดมาแต่บรรพกาล ด้วยการใช้แสงสว่างต่างประทีปบูชาพระธรรมคำสอน โดยเชื่อว่าแสงนั้นสามารถขจัดความมืด เปรียบได้กับพุทธธรรมซึ่งมีลักษณะเป็นดวงปัญญา ทำให้มนุษย์เห็นหลักสัจธรรมได้
เทียนพรรษาเพื่อถวายในยุคเก่านั้น เกิดจากศรัทธาอันเรียบง่าย แต่แฝงด้วยพลังความสามัคคี และความลุ่มลึกแห่งภูมิปัญญาพื้นบ้าน ชาวเมืองอุบลจะร่วมกันบริจาคเทียนหรือขี้ผึ้ง ตามแต่แรงกำลังศรัทธา แล้วนำเทียนนั้นมามัดกับลำไม้ไผ่ตามรอยต่อ อาจประดับด้วยกระดาษตังโกต่อเป็นลวดลาย หรือประดิษฐ์ใบตองเพียรจับจีบเป็นดอกดวงประดับไปตามส่วนลำเทียน ตั้งเทียนพรรษาอยู่บนผาสาทฝีมือสกุลช่างพื้นถิ่นไทยลาว
เครื่องแห่เอ้ อุทิศส่วนกุศลแด่บุพการี บ้างนำเทียนนั้นมาต้ม แล้วใช้ลูกมะละกอสลักเป็นลายดอกไม้ จุ่มน้ำเทียนที่ร้อน นำมาจุ่มน้ำเย็นอีกที ก็จะได้ดอกผึ้ง แล้วนำไปติดตามโครงไม้ไผ่สาน เรียกว่า ผาสาทผึ้ง อีกศรัทธา อาจใช้ดอกผึ้งนั้น ติดไปตามหน่อต้นกล้วย เรียกว่า ต้นดอกผึ้ง บางคุ้มบ้าน จะใช้เทียนห้อยติดกับโครงไม้ไผ่คล้ายต้นไม้ เป็นลักษณะของต้นเทียน
เครื่องดนตรี ประโคมกล่อมเสพงัน ขบวนแห่นั้น ประกอบด้วย กลองตุ้มและพางฮาด นางรำจะร่ายรำในแบบพื้นถิ่น คือ กางร่ม ใส่หมวก สวมเล็บ วาดฟ้อนคล้ายการรำแพนหางของนกยูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากการถวายเทียน สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำบุญเดือนแปด คือ การถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุสงฆ์
นานมาแล้ว ภาพเหล่านั้นได้เคลื่อนผ่าน เลือนจางไปจากวิถีของคนอุบล พรรษาหนึ่งมาถึง ผ่านไปพรรษาแล้วพรรษาเล่า แสงสว่างจากปัญญาและแรงศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาหาได้หรี่แสงลงไม่ จากแสงหนึ่งสู่หลายเส้นแสง เหล่าอุบลชาติต่างพร้อมใจกันเบ่งบาน สานสร้างลายศรัทธา เชื่อมโยงความสามัคคี สรรค์สร้างความเรืองรองเพื่อรอเวลาโรจน์เรืองสู่ความรุ่งโรจน์ต่อไป
นับโดยสายเลือดของคนอุบล สืบเชื้อสายมาจากเจ้าปางคำ เจ้าต้นวงศ์แห่งนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน รัตนกวีแห่งกรุงล้านช้าง บางเชื้อหน่อฟ้าใกล้ชิดกับเจ้าพระครูโพนสะเม็ก สังฆาธิกราชาธิราช แห่งนครจำปาศักดิ์ หรือ คราวเจ้าคำผง คนเมืองอุบล ก็ได้สร้างกำแพงเมืองกรุงเทพถวายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
งานศาสตร์เชิงศิลป์ได้ซึมซับไหลลึกลงสู่สายเลือดทุกเผ่าพงศ์ จนถึงสมัยพระครูวิโรจน์รัตโนบล คนเมืองอุบล มีบุญได้บูรณะองค์พระตุพนม งานพุทธศิลป์ทั้งหลายได้รับการถ่ายทอดจากสำนักหลักธรรมสู่ทุกวิญญาณของลูกหลานศิลปินพื้นถิ่นอย่างกว้างขวาง
สุนทรียศาสตร์ที่หล่อหลอมจากคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า ได้พร้อมกันหลั่งไหล ผ่านเส้นสายลายเทียน สู่ความงามวิจิตรและเลิศล้ำจนก้าวสู่ความเป็นต้นแบบ งานแห่เทียนเข้าพรรษาหนึ่งเดียวในประเทศไทย อีกทั้งได้รับแรงศรัทธาจากประชาชนทั่วไป หลอมรวมพลังผลักดันจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
จากวันนั้น ถึงวันนี้ นับได้ 117 ปี งานบุญประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา วาระหลอมรวมศรัทธา จากจิตวิญญาณชาวเมืองอุบลราชธานี สู่ความโรจน์เรืองในวิถีเทียน วิถีธรรมอีกครา
และในปีนี้ แสงศรัทธานับผ่านมาครบถึง 117 ปี แห่งความโรจน์เรืองวิถีธรรมวิถีเทียน นำทางไปสู่ความเป็นราชธานีแห่งเทียน
บัดนี้ ชาวจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมแล้วที่จะคลี่ม่านแห่งความวิจิตรของเส้นสายลายเทียน จุดประกายแสงแห่งความรุ่งเรือง ในพิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2561 "ฮีตศรัทธา ราชธานีแห่งเทียน" และขอเชิญชมกิจกรรมต่างๆ ในงานประเพรีแห่เทียนเข้าพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 23-28 กรกฎาคม 2561 นี้