มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มีความยินดีประกาศเกียรติคุณเพื่อเชิดชูเกียรติ นายมีชัย แต้สุจริยา ที่ได้รับปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสิ่งทอและแฟชั่น โดย สภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้พิจารณาอนุมัติปริญญากิตติมศักดิ์ ประจำปีการศึกษา 2567 แก่บุคคลผู้มีผลงานทางวิชาการดีเด่นในสาขาที่มีการสอนในมหาวิทยาลัย ทำคุณประโยชน์อย่างยิ่งแก่มหาวิทยาลัยหรือประเทศชาติหรือนานาชาติ สมควรได้รับการยกย่องเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นเจริญรอยตาม ผลงานสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางอันส่งผลดีต่อการพัฒนาองค์ความรู้ขององค์กร สังคม ประเทศชาติหรือนานาชาติ โดยจะเข้ารับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ ประจำปีการศึกษา 2567 ในวันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2568 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
นายมีชัย แต้สุจริยา เกิดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2501 ที่จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันอายุ 68 ปี สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ท่านเริ่มชีวิตการทำงานที่บริษัทการบินไทย และได้ลาออกเมื่อ พ.ศ.2536 เพื่ออุทิศตนทำงานด้านผ้าทอจวบจนปัจจุบัน
พ.ศ.2544
ได้รับโล่เกียรติคุณจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ในฐานะศิลปินดีเด่น จังหวัดอุบลราชธานี
พ.ศ.2559
การเชิดชูเกียรติจากสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ให้เป็นครูศิลป์ของแผ่นดิน
พ.ศ.2562
รางวัล “เพชรพาณิชย์” จากกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่เป็นต้นแบบการประกอบการผ้าไหมไทยจนประสบความสำเร็จในด้านการตลาด
พ.ศ.2563 ได้รับการยกย่องจากกรมหม่อนไหมให้เป็นปราชญ์หม่อนไหม สาขาลวดลายผ้า (การออกแบบลวดลายผ้ากาบบัวอุบล)
พ.ศ.2564 ได้รับคัดเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) ซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิตการทำงานศิลปะของท่าน
.
ท่านเป็นผู้ก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์คำปุน เพื่อสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมแห่งการถักทอเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมเครื่องมือทอผ้าโบราณอันล้ำค่า และเปิดให้สาธารณชนเข้าเยี่ยมชมโดยไม่มีความมุ่งหวังทางธุรกิจ พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นวิทยากรในการสาธิตและเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่นแก่เยาวชนอย่างยาวนานกว่าสองทศวรรษ เพื่อปลูกฝังความรักและความหวงแหนในมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ได้สร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ในการออกแบบและฟื้นฟูผ้าไหมลวดลายโบราณของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
.
ท่านเป็นผู้ริเริ่มและคิดค้น “ผ้าลายกาบบัว” ในปี พ.ศ.2543 ให้เป็นผ้าประจำจังหวัดอุบลราชธานี โดยการประยุกต์และผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมให้มีความร่วมสมัย สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังได้อุทิศความรู้ความสามารถในการฟื้นฟูผ้าชั้นสูงของเจ้านายเมืองอุบลฯ ที่เกือบจะสูญหายอย่าง “ผ้าซิ่นทิวมุกจกดาว”ผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะช่างทอถึง 3 ขั้นตอนต่อเนื่องตั้งแต่ ปี พ.ศ.2542 จนสำเร็จเป็นผลงานที่สมบูรณ์ อีกทั้งยังได้สร้างสรรค์ผลงานผ้าประยุกต์ชั้นสูงตามแบบอย่างลวดลายราชสำนักสำหรับภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ซึ่งเป็นการผสานเทคนิคการทอพื้นถิ่นอีสานกับลวดลายแบบสยามได้อย่างน่าอัศจรรย์
ผลงานของท่านมิได้จำกัดอยู่เพียงงานออกแบบสิ่งทอเท่านั้น แต่ยังขยายขอบเขตไปถึงการออกแบบและปรับปรุงเครื่องมือทอผ้า อันเป็นองค์ความรู้ในด้านภูมิปัญญาทางเทคโนโลยีพื้นถิ่นในการเพิ่มประสิทธิภาพการทอผ้าที่ซับซ้อน รวมถึงด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในที่ประยุกต์ใช้ศิลปะสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นอีสานสู่การออกแบบร่วมสมัย โดยคำนึงถึงการปรับเปลี่ยนวัสดุเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับยุคสมัยควบคู่กับการอนุรักษ์รูปแบบในอดีต และผลงานด้านนฤมิตศิลป์ต่าง ๆ ของท่าน ยังสะท้อนถึงความเข้าใจในการออกแบบอัตลักษณ์และการจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่เกี่ยวข้องกับศาสนา อาทิ งานออกแบบตราสัญลักษณ์ต่าง ๆ ผ่านงานอาจาริยบูชาของวัดหนองป่าพง สัญลักษณ์สำหรับวัดอนันทคีรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อนำไปใช้ปักบนตาลปัตร และย่ามพระ รวมถึงการมีส่วนร่วมในการออกแบบ ตัวอักษรไท-น้อย สำหรับป้ายของศาสนสถานสำคัญ เช่น วัดหนองป่าพง วัดป่านานาชาติ และวัดศรีอุบลรัตนาราม จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อสืบสานและเผยแพร่อักขระโบราณของท้องถิ่นอีสานในฐานะพุทธบูชา
นอกจากนี้ ท่านยังได้รับการยกย่องเป็น "Asia Pacific Region Craft Master Award" และ "Craft Master of Thai Textiles" จาก World Craft Council (WCC) พร้อมทั้งดำรงตำแหน่งและมีบทบาทสำคัญ ในฐานะที่ปรึกษาและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ อาทิ กรรมการตัดสิน "ผ้าตรานกยูงพระราชทาน" ของกรมหม่อนไหมไทย กรรมการคัดเลือกตัดสินเส้นไหม ศูนย์หม่อนไหม จังหวัดอุบลราชธานี ที่ปรึกษาโครงการ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก สืบสานพระราชดำริในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา" กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษาในการเปิดหลักสูตรทอผ้า วิทยาลัยสารพัดช่างอุบลราชธานี ซึ่งเป็นการวางรากฐานการเรียนรู้เชิงช่างฝีมือในระดับอาชีวศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ รวมถึงให้คำแนะนำในการพัฒนาหลักสูตรด้านสิ่งทอและแฟชั่นแก่ คณะศิลปประยุกต์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อย่างต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2547 นอกจากนี้ ยังให้ความอนุเคราะห์เครื่องมือเครื่องใช้ในการจัดทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อาทิ งานแห่เทียนพรรษา งานพิธีสำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงการทอผ้ากาบบัว ถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มายาวนานกว่า 10 ปี
ด้วยคุณูปการ อันโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ต่อวิชาชีพ สังคม และประเทศชาติ ตลอดจนการอุทิศตนเพื่อการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เป็นปูชนียบุคคลผู้ทรงคุณค่าที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติอย่างยิ่ง ด้วยคุณูปการดังกล่าว สภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในการประชุมครั้งที่ 10/2568(ลับ) เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 จึงอนุมัติปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสิ่งทอและแฟชั่น แด่ นายมีชัย แต้สุจริยา เพื่อเป็นการยกย่องและประกาศเกียรติคุณให้ปรากฏสืบไป