ความหมายของซุ้มดอกไม้ หน้าพิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง ในงานปฏิบัติธรรมเป็นอาจริยบูชา ประจำปี 2568
อาจริยบูชา ณ วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
โดยจัดวางผสมผสานแบบเรียบๆ นำเอาวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น แต่มีความงาม ทั้งงามในตา และงามในธรรม สอดคล้องกับคติธรรมคำสอนของหลวงปู่ชา ซึ่งเป็นคำสอนที่เรียบ เข้าใจง่าย แต่ลึกซึ้งถึงแก่นแห่งธรรม
ดอกดาวเรือง :
เป็นดอกไม้ที่ปลูกกันแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนใกล้กับวัดหนองป่าพง ได้ปลูกกันเป็นวิสาหกิจชุมชน จึงหาได้ง่าย อีกทั้งดอกดาวเรืองมีสีสันสวยงาม และชื่อดาวเรืองยังมีความหมายพ้องถึง ความเจริญรุ่งเรือง ทั้งเจริญรุ่งเรืองในชีวิตหน้าที่การงาน และเจริญรุ่งเรืองในธรรม
จั่นดอกมะพร้าว :
หรือดอกมะพร้าว เชื่อกันว่าเป็นดอกไม้ชั้นสูง ขนบการบูชาด้วยดอกมะพร้าวนั้นมีทั่วไปในแถบประเทศของเราและเพื่อนบ้าน ด้วยเหตุผลว่า จั่นตอกมะพร้าวเกิดในที่สูง เป็นดอกไม้ที่บริสุทธิ์ เพราะเกิดบนอากาศ กว่าจะได้จั่นมะพร้าวมาบูชาไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องปืนป่ายขึ้นไปเก็บ จึงมีความหมายเป็นเชิงเปรียบเทียบว่า กว่าจะเห็นธรรมมของพระพุทธเจ้า เข้าถึงแก่นแห่งธรรม ก็ต้องขวนขวายศึกษา และหมั่นปฏิบัติ
ข้าวตอก :
ชาวอีสานมักใช้ในงานพิธีกรรมต่างๆ เนื่องจากข้าวตอกเมื่อคั่วบานแล้วจะชาวงามเหมือนดอกมะลิ จึงเป็นขนบในการนำไปไหว้ครูบาอาจารย์ โดยมีคติว่า สติปัญญาที่ได้เรียนจากครูบาอาจารย์จะได้แตกฉาน รุ่งเรือง เฟื่องฟูเหมือนข้าวตอก อีกนัยหนึ่งหมายถึง ข้าวเปลือกที่คั่วแล้ว เมื่อหว่านไปย่อมไม่งอกขึ้นมาอีกเหมือนเมล็ดข้าวเปลือกธรรมดา จึงหมายถึง การถึงที่สุดแห่งธรรมแล้วไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิด
เครื่องจักสานไม้ไผ่ :
งานจักสานไม้ไผ่ เกิดขึ้นโดยการใช้ไม้ไผ่นำมาจักผ่าฉีก แล้วนำมาขึ้นโครงเป็นรูปทรง ทำเป็นภาชนะ เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ เป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่างยาวนาน แสดงถึงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ การสร้างสรรค์งานจักสานไม้ไผ่ต้องใช้ความประณีต ความละเอียดอ่อน และทักษะฝีมือเชิงช่าง จึงเป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้าน ที่ยังคงมีการสืบทอด และพัฒนารูปแบบต่อกันมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน